ดาวโจนส์ปิดบวก 96 จุด คลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 96 จุด นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุดออกมาสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 16สิงหาคม 2567 ปิดที่ 40,659.76 จุด เพิ่มขึ้น 96.70 จุด หรือ +0.24%  จากข้อมูลหลายชุดที่รายงานออกมา แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อจากที่ร่วงลงไปก่อนหน้านี้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ ที่ 5,554.25 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด, +0.20%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,631.72 จุด เพิ่มขึ้น 37.22 จุด, +0.21%
         
ทั้งสามดัชนีหลักปรับตัวรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดของปี 2024 และฟื้นตัวกลับมาส่วนหนึ่งจากที่ร่วงลงไปในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยดัชนี S&P 500 ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กลางเดือนกรกฎาคมเพียง 2%
         
ข้อมูลที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ช่วยทำให้ตลาดคลายความกังวล โดยข้อมูลยอดค้าปลีกที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีมีความแข็งแกร่งกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง ทั้งสองข้อมูลชี้ว่าความวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ทำให้มีการเทขายออกทั่วโลกเมื่อต้นเดือนนี้นั้นมากเกินไป และข้อมูลเงินเฟ้อที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ยังช่วยเพิ่มความหวังว่ายังเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ  soft landing
         
มาร์ก เฮเฟเล หัวหน้าฝ่ายการลงทุนฝ่ายบริหารความมั่งคั่งระดับโลกของ UBS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลที่เผยแพร่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความสมดุล ไม่ร้อนแรงเกินไปหรือชะลอตัวเย็นเกินไป ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลสองเรื่อง คือภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้นหรือ ไม่กับ อัตราเงินเฟ้อที่ยังหนืดจะเป็นอุปสรรคของธนาคารกลางสหรัฐหรือไม่ หากต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาการเติบโต
            
หุ้น Nvidia  เป็นหนึ่งในผหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยีประจำสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 18% หุ้นแอปเปิล และหุ้นไมโครซอฟต์ เพิ่มขึ้นราว4% และ 3% ตามลำดับในสัปดาห์นี้
         
นอกจากนี้แรงซื้อยังต่อเนื่องหลังการรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ตามการสำรวจล่าสุดของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นมาที่ 67.8 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรก หลังจากลดลงติดต่อกัน 4 เดือน และสูงกว่า 66.9 ที่นักวิเคราะห์คาด
         
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ได้แก่ การเริ่มต้นสร้างบ้านเดี่ยวเดือนกรกฎาคมที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง

อย่างไรก็ตามนักลงทุน จับตาไปที่การประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 สิงหาคม และคาดหวังว่า ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ จะส่งสัญญานถึงทิศทางนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปของเฟด
 
 ตลาดยุโรปปิดบวก นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น หลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุดของสหรัฐฯ ขณะที่มุ่งความสนใจไปการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวลล์ ในสัปดาห์หน้า
         
ดัชนี STOXX 600 ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์และถือเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีเพิ่มขึ้น 2.4%
         
ดัชนี FTSE 100 ของลอนดอนลดลงมากที่สุดในบรรดาตลาดหลักในยุโรป โดยลดลง 0.4% หลังจากที่ยอดค้าปลีกของอังกฤษเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 0.5% สอดคล้องกับการคาดการณ์
         
ตลาดจับตาการประชุมที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง สหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมของธนาคารกลางชั้นนำระดับโลกที่คาดว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐนายเจอโรม พาวเวลล์ จะแสดงความเห็น
         
กลุ่มรถยนต์เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 1.2% ด้วยแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ Ferrari ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.1% และ Stellantis ที่เพิ่มขึ้น 1.9%
         
หุ้น ไบเออร์พุ่งขึ้น 10.4% หลังจากชนะคดีทางกฎหมายในการต่อสู้เพื่อจำกัดความรับผิดจากการอ้างว่ายาฆ่าหญ้า Roundup ของบริษัททำให้เกิดมะเร็ง
         
หุ้น UBS ธนาคารสวิสเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากประกาศจะปิดกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากการซื้อ Credit Suisse
             
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 511.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด, +0.31%
            
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,311.41 จุด ลดลง 35.94 จุด, -0.43%
           
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,449.70 จุด เพิ่มขึ้น 26.33 จุด, +0.35%
            
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,322.40 จุด เพิ่มขึ้น 139.16 จุด, +0.77%
           
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.51 ดอลลาร หรือ 1.9% ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล   
 
……………………………………………………………………………………………………..