HoonSmart.com>>คณะกรรมการบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) นัดประชุมด่วน วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.นี้ หาทางกู้วิกฤต ก.ล.ต. กล่าวโทษ “สมโภชน์ อาหุนัย-อมร ทรัพย์ทวีกุล” และพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งเรื่องต่อ ปปง. พร้อมรับมือหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนส.ค.-ก.ย.รวม 5,500 ล้านบาท ตั๋วแลกเงินอีก 1,300 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้นัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2567 เพื่อจัดทำเอกสารแถลงการณ์ชี้แจงข้อกล่าวโทษของก.ล.ต. สำหรับเผยแพร่ในวันที่ 15 ก.ค.2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังเตรียมเงิน รองรับหุ้นกู้และตั๋วแลกเงินระยะสั้นที่จะครบกำหนดชำระในเร็วๆนี้ด้วย
ปัจจุบัน EA เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ค.2567 แบ่งเป็นชุดที่ 1 มีอายุ 1 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปีและชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี โดยทริสให้เรทติ้งองค์กรและหุ้นกู้ที่ BBB+ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด
EA มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 15 ส.ค.นี้ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และวันที่ 29 ก.ย.จะครบอีก 4,000 ล้านบาท ส่วนตั๋วแลกเงินระยะสั้นจะทยอยครบชำระภายในปีนี้ มูลค่า 1,300 ล้านบาท บริษัทฯมียอดคงค้างตราสารหนี้ระยะยาวรวม 31,166 ล้านบาทและตราสารหนี้ระยะสั้นรวม 1,500 ล้านบาท
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษบุคคลรวม 3 ราย คือ นายสมโภชน์ อาหุนัย และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และบริษัทย่อยที่ EA เป็นผู้ถือหุ้น 99.99% (ได้แก่ บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ และบริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง ) รวมทั้งนายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำการทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้แก่ตนเอง และ/หรือผู้อื่น ทำให้ EA และบริษัทย่อยเสียหาย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ก.ล.ต.ระบุว่า ปรากฏข้อเท็จจริงและหลักฐานที่พิจารณาได้ว่า ในช่วงปี 2556 –2558 บุคคลทั้ง 3 รายได้ร่วมกันกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และ/หรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัทดังกล่าว เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 3 รายได้รับผลประโยชน์ จำนวนรวม 3,465.64 ล้านบาท
การกระทำของบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 89/24 มาตรา 311 มาตรา 313 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้วแต่กรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 รายต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อ ปปง. อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว
เนื่องจากเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ในการรวบรวมเอกสารหลักฐานในคดีดังกล่าว ก.ล.ต. ได้ประสานความร่วมมือและได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานกำกับดูแลของต่างประเทศหลายแห่ง
นอกจากนี้ก.ล.ต.ยังมีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณี EA ต้องดำเนินคดีทางอาญา เนื่องจากเป็นความผิดทุจริตตามมาตรา 311 ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จึงไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งได้
ส่วนการกล่าวโทษครั้งนี้ มีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560