HoonSmart.com>>คปภ.เร่งประกันภัยจ่ายค่าสินไหมน้ำท่วม ขีดเส้นรถยนต์พังทั้งคัน 7 วันต้องได้เงิน ซ่อมเองชดเชยสูงสุด 70% ของทุนประกัน บ้านอยู่อาศัยได้ 2 หมื่นบาท ทรัพย์สิน 3 หมื่นบาท ยืดเวลาจ่ายเบี้ยแต่ยังให้ความคุ้มครอง
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า คปภ.ได้ออกมาตรการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว พร้อมกำกับติดตามการทำงานของบริษัทประกันภัยทุกแห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการทุกด้านเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ประกันภัยรถยนต์
หากเกิดความเสียหายสิ้นเชิง บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มตามทุนประกันภายใน 7 วันหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน
แต่หากผู้เอาประกันภัยไม่ประสงค์จะรับเงินคืนตามข้อเสนอ ก็สามารถนำรถไปซ่อมเองได้ โดยบริษัทจะจ่ายค่าซ่อมไม่เกิน 70% ของทุนประกัน พร้อมคืนเบี้ยประกันที่เหลือตามสัดส่วนจากการยกเลิกกรมธรรม์
กรณีที่รถเสียหายเพียงบางส่วน บริษัทต้องเร่งตรวจสอบและประเมินความเสียหาย รวมทั้งประสานงานกับอู่ซ่อมในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนรถที่ได้รับผลกระทบและดำเนินการซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
สำหรับประกันวินาศภัยประเภทอื่น ๆ ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยหรือได้รับอิทธิพลจากพายุ
กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย จะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 20,000 บาท
กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยหรือกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินที่ให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วมจะได้รับการชดใช้ 30,000 บาท
ทั้งนี้ไม่เกินวงเงินคุ้มครองที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ หากเกิดความเสียหายเกินกว่าจำนวนดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยต้องส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และบริษัทต้องดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 3 วันหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน
ส่วนกรมธรรม์ประเภทอื่น ๆ ก็ให้เร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและทันท่วงที
กรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุทกภัย
คปภ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวิทยา จันทน์เสนะ และพล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยใช้ข้อมูลรายชื่อและเลขบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว เพื่อนำมาตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองประกันภัยผ่านระบบ IBS และประสานไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อเร่งจ่ายสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับประโยชน์หรือทายาทโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ญาติผู้เสียชีวิตสามารถตรวจสอบสิทธิได้ผ่านสายด่วน คปภ. 1186 ซึ่งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ยืดต่ออายุตัวแทน
จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูมรสุมของภาคใต้ และยังเป็นช่วง High Season ของธุรกรรมด้านประกันภัย อาจส่งผลให้ตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยไม่สามารถเข้ารับการอบรมหรือต่ออายุใบอนุญาตได้ภายในเวลาที่กำหนด
เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงผู้ที่ต้องการต่ออายุใบอนุญาตที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงออกมาตรการผ่อนผันการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยบุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่ใบอนุญาตสิ้นอายุในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569 ผู้ได้รับผลกระทบสามารถ ยื่นคำขอขยายระยะเวลาการดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตได้ภายใน 15 วันนับแต่เหตุอุทกภัยสิ้นสุดลง แต่ต้องไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2569
ยืดจ่ายเบี้ย-คงความคุ้มครอง
ก่อนหน้านี้ นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการ ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย คปภ.ได้ออกคำสั่งนายทะเบียน จำนวน 4 ฉบับ เพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยหรือได้รับผลกระทบจากพายุ ให้ยังคงได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง และช่วยลดภาระทางการเงินในช่วงสถานการณ์อุทกภัย สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
บริษัทประกันวินาศภัย
ประกันภัยรถยนต์
– ผ่อนผันการชำระเบี้ยได้สูงสุด 180 วัน สำหรับรถยนต์ทุกประเภท (ยกเว้นรถยนต์นั่งกลุ่ม 1 และ 2)
กรมธรรม์ทั่วไป
– ขยายเวลาชำระเบี้ยออกไป 90 วัน
– หากกรมธรรม์สุขภาพ/โรคร้ายแรงสิ้นผลเพราะขาดชำระเบี้ย สามารถต่ออายุได้โดย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
บริษัทประกันชีวิต
กรมธรรม์ชีวิต
– ขยายเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยออกไปอีก 60 วัน
– หากกรมธรรม์สิ้นผลเพราะขาดชำระเบี้ย สามารถต่ออายุได้โดย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และ ยกเว้น/ลดดอกเบี้ย ไม่เกิน 6 เดือน
– กรณีกรมธรรม์ถูกเปลี่ยนสถานะ (เช่น ขยายเวลา, ใช้เงินสำเร็จ, กู้ยืม) สามารถกลับคืนสถานะเดิมได้ โดย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และ ยกเว้น/ลดดอกเบี้ย ไม่เกิน 6 เดือน
– หากเปลี่ยนงวดชำระเบี้ยเป็นรายงวดสั้นกว่า 1 ปี บริษัทผ่อนผันให้ชำระโดย ไม่คิดดอกเบี้ย ไม่เกิน 6 เดือน
นัด 29 ประกันส่งต่อความห่วงใย
นอกจากนี้ นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. ยังร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยรวมพลังประกันภัยส่งต่อความห่วงใย” รวมทั้งสิ้น 29 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงาน คปภ. สมาคมด้านการประกันภัย 4 สมาคม บริษัทประกันชีวิต 10 แห่ง บริษัทประกันวินาศภัย 7 แห่ง และบริษัทประกันภัย 7 แห่ง โดยได้นำเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์สำรองไฟ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ขนย้ายโดยรถบรรทุกและทางเครื่องบินเพื่อส่งมอบให้แก่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ ของกระทรวงการคลัง เพื่อนำมอบให้แก่หน่วยงานกระทรวงการคลังในพื้นที่ และจัดสรรให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ของภาคใต้