HoonSmart.com>>หุ้น TIDLOR ร่วงนำกลุ่มเช่าซื้อ สองโบรกเกอร์ ระบุคุณภาพสินทรัพย์ไตรมาส 2/67 แย่ลง โดนปรับลดราคาเป้าหมายลง ขณะที่ MTC คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ทำจุดสูงสุดใหม่ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย และกำไรปี 67 คาดโตเด่น ส่วน SAWAD คาดกำไรไตรมาส 2 ทรงตัวตามคุณภาพสินทรัพย์ โดย SAWAD เริ่มปรับสัดส่วนสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์ขึ้นมากกว่า 50%
เมื่อเวลา 11.15 น.หุ้น TIDLOR ร่วง 4.97% นำกลุ่มเช่าซื้อ โดยมาอยู่ที่ 17.20 บาท ลดลง 0.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 313.47 ล้านบาท
ขณะที่หุ้น MTC ทรงตัวที่ 42.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 136.53 ล้านบาท
หุ้น SAWAD ลบแค่ 0.69% มาที่ 35.75 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 86.79 ล้านบาท
บล.กรุงศรี มีมุมมองเป็นกลาง (Neutral)ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ของ TIDLOR ที่ 1,060 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น +14% y-y เพราะสินเชื่อรวมเติบโต +18% y-y และ +3% q-q คิดเป็น +6% YTD และรายได้การขายประกัน ขณะที่กำไรลดลง -4% q-q เพราะค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน(OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรอง(ECL) ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio อยู่ที่ 1.70% เพิ่มต่อจากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 1.60% จากกลุ่มรถ 4 ล้อ และรถบรรทุก ทั้งนี้ ปรับกำไรสุทธิปี 2568-2569 ลง 6-10% ต่อปี มาอยู่ที่ 4,261 และ 4,537 ล้านบาท ตามลำดับ จากการจัดการปัญหาคุณภาพสินทรัพย์นานกว่าคาด ส่งผลต่อราคาเป้าหมายปี 2567 ลดลงเหลือ 19 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ TIDLOR คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 1.1 พันล้านบาท -1% q-q, +18% y-y หลักๆ มาจากการตั้งสำรอง ECL ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลง คาด PPOP ที่ 2.2 พันล้านบาท +2.3% q-q, +21.8% y-y จากการขยายตัวของสินเชื่อ 3.5% q-q, 19% y-y ขณะที่ loan spread ทรงตัว แม้ cost of fund ปรับขึ้น แต่ถูกชดเชยด้วย loan yield ที่สูงขึ้น จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567-2569 เติบโตเฉลี่ย +20% CAGR บนสมมตฐิานการเติบโตของสินเชื่อ 15% CAGR อย่างไรก็ตามปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 21 บาท จาก 27 บาท เพื่อสะท้อน cost of equity ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังแนะนำ”ซื้อ”
ส่วน MTC บล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อ”คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 1,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +18% y-y และ +2% q-q ทำจุดสูงสุดใหม่ เพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย(NII)+11% y-y และ +3% q-q จากสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น +15% y-y และ +3%q-q หรือคิดเป็น +7% YTD จากกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นหลัก ซึ่งได้ประโยชน์จากช่วงเปิดเทอมและฤดูเพาะปลูกและการขยายสาขาด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio อยู่ที่ 3.10% จาก 3.03% ในไตรมาส 1 ปี 2567 ตามความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเป็นช่วงที่ลูกค้าต้องการใช้เงินสำหรับช่วงเปิดเทอม และช่วงเพาะปลูก
ภาพรวม MTC มองเห็นการพัฒนาการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวกตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2566 และกำไรสุทธิปี 2567 คาดกลับมาเติบโต +16% y-y เด่นสุดในกลุ่ม ดังนั้นยังชอบมากสุดในกลุ่ม Consumer Finance
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะ”เก็งกำไร”หุ้น SAWAD เป้าพื้นฐาน 45 บาท ประเมินคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมเริ่มทรงตัว ล่าสุดดัชนีราคารถมือสองเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในเดือน ธ.ค.2566 รวมทั้ง SAWAD เริ่มปรับสัดส่วนสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์ขึ้น >50% ซึ่งราคามือสองของรถมอเตอร์ไซต์มีความผันผวนน้อยกว่ารถยนต์ พร้อมคาดกำไรไตรมาส 2 ปี 2567 ทรงตัว QoQ ที่ 1.27 พันล้านบาท
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) เริ่มปรับลง ประเมิน Bond yield ที่เริ่มปรับลดลงต่อเนื่อง จะหนุน Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ ส่วน Valuation ถูก และ Discount กว่ากลุ่มฯ Forward PE ต่ำเพียง 10.5 เท่า (-1.25 S.D.) และเทรดต่ำกว่า MTC, TIDLOR ที่เฉลี่ย 14–15 เท่า