ดาวโจนส์ปิดบวก 56 จุด ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮวันที่ 7

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 ดัชนีปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 56 จุด ยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด หวังเฟดลดดอกเบี้ย บอนด์ยีลด์ลดลง ดัชนี S&P 500 ควง Nasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แรงหนุนหุ้น Nvidia นำกลุ่มเทคคึกคัก ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” เพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยูโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ปิดที่ 38,834.86 จุด เพิ่มขึ้น 56.76 จุด หรือ +0.15% หลังการรายงานยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดการณ์ทำให้มองว่าเศรษฐกิจชะลอตัว และอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P 500 ยังปรับขึ้นติดต่อทำสถิติสูงสุดใหม่และใกล้ระดับ 5,500 และดัชนี Nasdaq ปิดที่นิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 จากการปรับขึ้น 3.5% ไปที่ระดับนิวไฮของหุ้น Nvidia จนมูลค่าตลาด(market capitalization) สูงถึง 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ แซงไมโครซอฟต์ และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 เนื่องจากนักลงทุนมองว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยนั้นจะมีส่วนหนุนอุตสาหกรรม

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,487.03 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด, +0.25%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,862.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, +0.03%

เคน มาโฮนีย์ จาก Mahoney Asset Management กล่าว ว่า นักลงทุนพยายามที่จะเกาะขบวน Nvidia ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเงินก็ยังไม่ได้ออกจากตลาด แต่สลับซื้อขายในหุ้นชั้นนำในไตรมาสนี้

หุ้นบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Qualcomm เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้น Micron Technology เพิ่มขึ้น 3.8% หุ้น Taiwan Semiconductor เพิ่มขึ้น 1.4%

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 2.3% นอกจากนี้ยังมีการปรับยอดค้าปลีกเดือนเมษายนลดลง

หลังจากการรายงานข้อมูลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาที่ 4.217% และเครื่องมือ FedWatch Tool ของ LSEG บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้เฟดส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ก็ตาม

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เฟดส่วนหนึ่งยังย้ำว่าต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนวาเงินเฟ้อลดลงแล้วก่อนที่จะปรับลดดอกเบี้ย

แอนเดรียนา คูเกลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เธอมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง และจะเปิดทางให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้
ด้านนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดแห่งบอสตันกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดมีแนวโน้มทีดี แต่ยังไม่มากพอที่จะปรับนโยบายการเงิน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่มีรายงานเมื่อคืนนี้ คือ การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมจาก เฟดที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายปี
ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่กำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจากเอสแอนด์พี โกลบอล

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพุธที่ 19 มิถุนายนเนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการเลิกทาสในสหรัฐ

ตลาดยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองของฝรั่งเศส แต่หันไปให้ความสนใจกับการรายงานข้อมูลและความคิดเห็นของผู้กำหนดนโยบายเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก

กลุ่มสาธารณูปโภคนำการปรับขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1.5% กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.2% ฟื้นตัวจากที่ร่วงลง 8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนปรับตัวลดลง หลังความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองในฝรั่งเศสลดลงบ้าง ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอทำให้กระแสการลงทุนบางส่วนไปสู่ตราสารหนี้

นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยในยุโรปและสหรัฐ

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ในเดือนกันยายนและเดือนธันวาคมปีนี้

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 515.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด, +0.69%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,191.29 จุด เพิ่มขึ้น 49.14 จุด, +0.60%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,628.80 จุด เพิ่มขึ้น 57.23 จุด, +0.76%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,131.97 จุด เพิ่มขึ้น 63.76 จุด, +0.35%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 81.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 85.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล