HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 344 จุด กว่า 1.02% ดัชนี S&P500 -1.58% ดัชนี Nasdaq -1.98% หลังการรายงานผลประกอบการของ First Republic Bank นักลงทุนกังวลเสถียรภาพของภาคสถาบันการเงินอีกครั้ง ด้าน United Parcel Service Inc (UPS) ผลประกอบการอ่อนแอ ทำนักลงทุนวิตกเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.2% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 25 เมษายน 2566 ที่ 33,530.83 จุด ร่วงลง 344.57 จุด หรือ 1.02% หลังการรายงานผลประกอบการของ First Republic Bank ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคสถาบันการเงินอีกครั้ง ขณะเดียวกันผลประกอบการที่อ่อนแอของ United Parcel Service Inc(UPS) ทำให้วิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,071.63 จุด ลดลง 65.41 จุด, -1.58%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,799.16 จุด ลดลง 238.05 จุด, -1.98%
หุ้น First Republic Bank ลดลงกว่า 49% หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสแรก โดยระบุว่าเงินฝากลดลง 40% หรือกว่า 100 พันล้านดอลลาร์มาที่ 104.5 พันล้านดอลลาร์ แต่จากนั้นก็มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ธนาคารจะลดค่าใช้จ่ายซึ่งรวมถึงการลดพนักงานลง 20% ถึง 25% ในไตรมาสสอง ประกอบกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวาธนาคารมีแผนจะขายสินเชื่อและหลักทรัพย์ออกเพื่อปรับโครงสร้างงบดุล
Carol Schleif จาก BMO Family Office กล่าวว่า นักลงทุนพยายามท่จะวิเคราะห์สถานะธนาคารภูมิภาคโดยรวม ว่ามีสัญญานเตือนอะไรหรือไม่ เพราะสำหรับธุรกิจขนาดกลางของประเทศแล้ว ฐานะที่แข็งแกร่งของธนาคารภูมิภาคมีความสำคัญ
นักลงทุนติดตามสถานการณ์ของธนาคารอย่างใลก้ชิดด้วยความกังวลว่าอาจจะเป็นเหมือน
Silicon Valley Bank และ Signature Bank ที่ต้องปิดกิจการและส่งผลกระทบต่อทั้งภาคธนาคารในเดือนที่แล้ว
หุ้นธนาคารอื่นทั้ง Western Alliance Bancorp ลดลง 5.6% หุ้น PacWest ลดลง 8.9% หุ้น Charles Schwab ลดลง 4%
นักลงทุนยังมีความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลัง UPS ซึ่งราคาหุ้น ลดลง10% รายงานผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดและฝ่ายบริหารกล่าวว่ายอดขายจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปจากที่ประสบมาแล้ว และรายได้ทั้งปีจะอยู่ที่ขอบล่างของกรอบเป้าหมาย
นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนเมษายนยังลดลงไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 9 เดือน โดยConference Board รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 101.3 จาก 104.0 ในเดือนมีนาคม
Schleif จาก BMO Family Office กล่าวอีกว่า นักลงทุนประคองตัวท่ามกลางการรายงานผลการดำเนินเงินและข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์หน้า
ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
หุ้นไมโครซอฟต์บวก 4.6% ในท้ายชั่วโมงซื้อขายหลังผลการดำเนินงานดีกว่าคาด
หุ้น PepsiCo บวก 2.3% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด
นักลงทุนยังจับตาการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟด ให้ความสำคัญ เพื่อประเมินว่าเงินเฟ้อลดลงหรือไม่และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมหรือไม่
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นสเปนลดลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือน จากการร่วงลงของหุ้นธนาคารที่นำโดยธนาคารซานทานแดร์ เป็นผลจากการรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของ Novartis ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์
ธนาคารซานทานแดร์ลดงลง 6.0% หลังข้อมูลธุรกิจที่อ่อนแอในบราซิลและสหรัฐได้กลบกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกจากการดำเนินงานยุโรป
หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปลดลง 2.2% จากการผลประกอบการที่อ่อนแอของหลายธนาคาร
หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป เอจี ลดลง 2.2% หลังได้เงินสำรองมากขึ้นเพื่อรองรับเงินกู้จำนองที่มีความเสี่ยง
หุ้น Novartis AG บวก 4.0% หลังปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปีขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายและการทดสอบยารักษษมะเร็งทรวงอกประสบความสำเร็จ ส่งผลให้กลุ่มเฮลธ์แคร์บวก 0.6%
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 3.0% เป็นการลดลงติดเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
ตลาดยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้าซึ่งคาดว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 467.08 จุด ลดลง 1.89 จุด, -0.40%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,891.13 จุด ลดลง 21.07 จุด, -0.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,531.61 จุด ลดลง 42.25 จุด, -0.56%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,872.13 จุด เพิ่มขึ้น 8.18 จุด, +0.05%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล