HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 110 จุด ผิดหวังผลประกอบการเทสลา นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดส่งสัญญาณเศรษฐกิจหดตัว ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 2% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ 33,786.62 จุด ลดลง 110.39 จุด หรือ 0.33% จากการตอบสนองต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ผสมปนเปกัน รวมทั้งผิดหวังผลประกอบการที่ต่ำกว่าของเทสลา ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดว่าเป็นสัญญานการหดตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,129.79 จุด ลดลง 24.73 จุด, -0.60%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 2,059.56 จุด ลดลง 97.67 จุด, -0.80%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 3.59% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 4.25% หลังอังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือนมีนาคมชะลอตัวแต่ยังสูงกว่า 10%
หุ้นเทสลาลดลง 9.75% ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด จากการปรับลดราคาขายหลายครั้ง
หุ้นผู้ผลิตรถยนต์แบบเดิมที่หันมาผลิตรถไฟฟ้าด้วยนั้นต่างปรับตัวลดลง โดยหุ้นฟอร์ด และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ต่างลดลงราว 3% ขณะที่หุ้นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง Rivianลดลง 4%
ผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดส่งผลให้หุ้น AT&T ลดลง 10.4% และ หุ้นAmerican Express ลดลง1%
ส่วนในกลุ่มธุรกิจคาสิโน Las Vegas Sands คาดการณ์ทางบวกต่อทั้งอุตสาหกรรม หลังคาสินโนในมาเก๊ามีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากระยะเดียวกันของปีก่อน ราคาหุ้นบวก 3.66%และส่งผลให้หุ้นคาสินโนอื่นปรับตัวขึ้นด้วย
ขณะนี้มี 16% ของบริษัทใน S&P 500 รายงานดำเนินงานมาแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ 76% มีผลประกอบการดีกว่าคาด นักลงทุนส่วนหนึ่งคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกโดยรวมจะลดลง แต่การที่หลายบริษัทไม่ได้คาดการณ์แนวโน้มทำให้นักลงทุนเริ่มกังวล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์หน้าจะเป็นการทดสอบตลาดอย่างแท้จริง ขณะที่วานนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพากันลดลง หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 1.22% หุ้นไมโครซอฟต์ ลดลง 0.8% หุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 0.58% และหุ้น Seagate Technology ลดลงกว่า 9% จากผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดและคาดการณ์แนวโน้มไม่สดใส เพราะความต้องการอ่อนตัวลง
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ล่าสุดกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุน เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นสัญญาณการหดตัวของเศรษฐกิจ และอาจจะชะลอตัวมากกว่าที่เคยประเมินไว้ โดย กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วว่า เพิ่มขึ้น 5,000 ราย มาที่ 245,000 ราย และสูงกว่า240,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมีนาคมลดลง 2.4% มาที่ 4.4 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน และลดลง 22% เมื่อเทียบรายปี
นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาฟิลาเดลเพียรายงานดัชนีภาคการผลิตลดลงมากกว่าที่คาดลงไปที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020
นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงงดการให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ในวันเสาร์นี้ ก่อนการประชุมในเดือนหน้า โดยนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดยังคงต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเมษายน
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ หลังผิดหวังผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และจากการลดลง 3.7% ของกลุ่มรถยนต์ หลังเทสลาในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสหนึ่งต่ำกว่าคาด
หุ้น Nordic Semiconductor ผู้ผลิตชิปลดลง 17.6% จากยอดขายไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด หุ้น Sartorius ในตลาดเยอรมนีลดลง 11.3% ลงไประดับต่ำสุดในรอบกว่าปีครึ่ง จากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด
ตลาดยังมีความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(European Central Bank-ECB) จากการให้ความเห็นของผู้กำกับนโยบาย โดยนางคริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า เงินเฟ้อยูโรโซนยังอยู่ในระดับสูงและนโยบายการเงินของ ECB ยังต้องเดินหน้าเพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่กรอบเป้าหมาย 2%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 467.43 จุด ลดลง 0.70 จุด, -0.15%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,902.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด, +0.05%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,538.71 จุด ลดลง 10.73 จุด, -0.14%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,795.97 จุด ลดลง 99.23 จุด, -0.62%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.36% ปิดที่ 77.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 81.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล