HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 98 จุด ด้าน S&P 500 – Nasdaq ปิดลบ นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น WTI บวก 2.24% ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 11 เมษายน 2566 ที่ 33,684.79 จุด เพิ่มขึ้น 98.27 จุด หรือ 0.29% นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,108.94 จุด ลดลง 0.17 จุด, -0.004%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,031.88 จุด ลดลง 52.48 จุด,-0.43%
หุ้นกลุ่มวัฏจักรที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นโดดเด่น แต่กลุ่มเทคโนโลยีกลับลดลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 3.428% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 4.033%
นักลงทุนจับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคและกับดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมีนาคมที่กำหนดเผยแพร่ในวันพุธ และวันพฤหัสบดีตามลำดับ ซึ่งเงินเฟ้อทั้งสองตัวจะบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีท่าทีอย่างไรในการดำเนินนโยบายการเงิน
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนกุมภาพันธ์ แต่จะลดลงเมื่อเทียบรายปีโดยเพิ่มขึ้นเพียง 5.2%
วิลเลียม นอร์ธีย์ จากฝ่าย Wealth Management ของU.S. Bank กล่าวว่า ข้อมูลในสัปดาห์นี้มีความสำคัญเพราะจะเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายที่จะใช้ในการประชุมเฟดวันที่ 2-3 พฤษภาคม และในขณะที่เฟดประเมินการต่อสู้กับเงินเฟ้อและจังหวะที่เหมาะสมในการดำเนินนโยบายการเงิน ตลาดเริ่มที่จะเอนเอียงทางที่ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอีกในการประชุมครั้งหน้า
นอกจากนี้รายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งที่แล้วของเฟดที่จะเผยแพร่ในวันพุธ ก็จะมีข้อมูลที่ลึกมากขึ้นของการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด
นักลงทุนยังจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน โดยธนาคารใหญ่ 3 รายคือ เจพีมอร์แกน เวลลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป จะเปิดเผยผลการดำเนินงานในวันศุกร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังวิกฤติธนาคารนเดือนมีนาคม รวมทั้งแบล็คร็อค และ ยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ในปลายสัปดาห์เช่นกัน
หุ้น CarMax บริษัทจำหน่ายรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้น 9.6% จากผลการดำเนินการงานดีกว่าคาด
หุ้นโมเดอร์นาลดลง 3% หลังประกาศชะลอการเปิดตัววัคซีนไข้หวัดใหญ่
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหลังกลับมาซื้อขายอีกครั้งจากวันหยุดยาว นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ที่บวก 3.6% ส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นของหุ้น Rio Tinto ที่บวก 5% แม้มีสัญญานเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งจากจีนและสหรัฐ
หุ้น Glencore บริษัทเหมืองอีกรายบวก 3.3% หลังเสนอซื้อ Teck Resources มูลค่า 22.5 พันล้านดอลลาร์ด้วยการใช้เงินสดส่วนหนึ่ง
หุ้นกลุ่มยานยนต์บวก 1.8% หุ้นยูบีเอสบวก 1.1% หลังเจพีมอร์แกนปรับราคาเป้าหมายขึ้น
นักลงทุนจับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคและกับดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมีนาคมของสหรัฐที่กำหนดเผยแพร่ในวันพุธ และวันพฤหัสบดีตามลำดับ เพื่อประเมินการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ขณะที่ Pablo Hernandez de Cos จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดทางขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยระบุว่าเงินเฟ้อพื้นฐานยูโรโซนน่าจะยังคงสูงทั้งปี 2023
ในวันนี้เยอรมนีจะรายงานข้อมูลเงินเฟ้อหลังเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 3% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 461.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด,+0.62%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,785.72 จุด เพิ่มขึ้น 44.16 จุด, +0.57%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,390.28 จุด เพิ่มขึ้น 65.53 จุด, +0.89
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,655.17 จุด เพิ่มขึ้น 57.28 จุด, +0.37%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 81.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.70% ปิดที่ 85.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล