ดาวโจนส์ปิดบวก 194 จุด หุ้นกลุ่มแบงก์เด้ง

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 194 จุด หลังดีลซื้อสินทรัพย์ของ Silicon Valley Bank ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มธนาคาร ขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีวิตกเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ฉุดดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีด 3.55 ดอลลาร์ พุ่ง 5.1% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ราคาหุ้นดอยช์แบงก์เพิ่มขึ้น 6.2% จากร่วงแรงในวันศุกร์หลัง credit default swap ของธนาคารพุ่งสูงขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 27 มีนาคม2566 ปิดที่ 32,432.08 จุด เพิ่มขึ้น 194.55 จุด หรือ 0.6% หลังดีลซื้อสินทรัพย์ของ Silicon Valley Bank ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มธนาคาร

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,977.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด, +0.16%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,768.84 จุด ลดลง 55.12 จุด, -0.47%

ดัชนีกลุ่มแบงก์ใน S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.8% ส่วนดัชนี KBW หุ้นธนาคารภูมิภาคบวก 1.1%

หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 2.9% และหุ้นแบงก์ ออฟอเมริกาที่บวก 4.4% ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ส่วนในกลุ่มธนาคารภูมิภาค หุ้น First Republic Bank เพิ่มขึ้น 11.8% หุ้น PacWest Bancorp เพิ่มขึ้น 5%

หุ้น First Citizens BancShares Inc บวกกว่า 50% หลังประกาศจะซื้อเงินฝากและสินเชื่อของ Silicon Valley Bank ที่ล่มสลายเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยที่บรรษัทคำประกันเงินฝากจะรับความเสียหายของสินเชื่อส่วนหนึ่งที่ First Citizens ซื้อ

ไบรอัน เลวิตต์ จาก Invesco กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของตลาดดีขึ้นจากการที่หน่วยงานระดับนโยบายได้ดำเนินการบรรเทาผลกระทบ การขยายการให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้ช่วยทำให้คลายกังวลเกี่ยวกับการแห่ถอนเงินจากธนาคาร

การแห่ถอนเงินออกจากธนาคารขนาดเล็กเพื่อไปฝากธนาคารขนาดใหญ่ชะลอตัวบ้างแล้ว

บลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการสหรัฐได้ขยายโครงการความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ธนาคารออกไป ซึ่งจะทำให้ธนาคาร First Republic มีเวลาเพิ่มสภาพคล่องมากขึ้น

หุ้นดอยช์แบงก์ฟื้นตัว 4.7% จากที่ร่วงแรงในสัปดาห์ก่อน

ไมเคิล เจมส์ จาก Wedbush Securitiesกล่าวว่า แม้ข่าวของ First Citizens และการขยายโครงการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องจะมีผลบวกต่อตลาด แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ความกังวลต่อภาคธนาคารและผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเศรษฐกิจโลกลดลง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลงด้วยความวิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยไมเคิลชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม “ยิ่งไม่มีแนวโน้มว่าแบงก์จะล้มมากขึ้น ก็ยิ่งง่ายขึ้นสำหรับเฟดที่จะขึ้นดอกเบี้ย”

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกด้วยมุมมองทางบวกที่ยังรอบคอบว่า ความผันผวนนภาคธนาคารใกล้จะสิ้นสุดแล้ว ประกอบราคาหุ้นดอยช์แบงก์กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.2% จากที่ร่วงแรงในวันศุกร์จากcredit default swap ของธนาคารพุ่งสูงขึ้น

กลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.9% กลุ่มเฮลธ์แคร์บวก 1.9% และกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.4%

รัสส์ โมลด์ จาก AJ Bell กล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากยังไม่ต้องการแตะหุ้นกลุ่มธนาคารเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก จากความกังวลต่อต้นทุนที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และธนาคารจะระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นางคริสตาลีน่า กอร์เกียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้น แม้ประเทศหลักได้ดำเนินการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลา

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 444.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด หรือ +1.05%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,471.77 จุด เพิ่มขึ้น 66.32 จุด หรือ +0.9%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,078.27 จุด เพิ่มขึ้น 63.17 จุด หรือ +0.9%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,127.68 จุด เพิ่มขึ้น 170.45 จุด หรือ 1.14%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 72.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.13 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 78.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล