HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เด้ง ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 336 จุด จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังนักลงทุนเชื่อมั่นวิกฤต SVB คุมไม่ให้ลุกลามได้ ด้านเงินเฟ้อชะลอตัวหวังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 3.47 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกแรงซื้อกลุ่มแบงก์ จับตาประชุม ECB วันพฤหัสบดีนี้คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 14 มีนาคม 2566 ปิดที่ 32,155.40 จุด เพิ่มขึ้น 336.26 จุด หรือ 1.06% จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคาร ด้วยความเชื่อมั่นว่าวิกฤติภาคธนาคารจากรณี Silicon Valley Bank(SVB) สามารถควบคุมไม่ให้ลุกลามได้ ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวทำให้คาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.53 จุด, +1.65%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,428.15 จุด เพิ่มขึ้น 239.31 จุด, +2.14%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นธนาคารจากที่ร่วงลงแรงในวันก่อนหน้า ด้วยความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าธนาคารอื่นๆจะไม่ประสบปัญหาแบบเดียวกับ SVB และ Signature Bank หลังหน่วยงานกำกับดูแลได้ประกาศมาตรการดูแลผู้ฝากเงินในสองธนาคารนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ในภาคธนาคาร
ชาร์ลี ริปเลย์ จาก Allianz Investment Management กล่าวว่า มาตรการที่ประกาศออกมาช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง และนักลงทุนเข้าใจว่าความเสี่ยงที่แท้จริง และเข้าใจว่าวิกฤติอยู่ตรงไหน
การปรับขึ้นของตลาดยังกระจายไปยังกลุ่มอื่น โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P 500 พากันปรับขึ้น แต่ในช่วงบ่ายตลาดอ่อนตัวลง หลังมีรายงานข่าวว่าเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียยิงโดรนของสหรัฐตกในทะเลดำ
นักลงทุนยังเกาะติดตัวเลขเงินเฟ้อ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรการวัดเงินเฟ้อ จาก
ผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจาก 6.2% ในเดือนมกราคม เป็นการเพิ่ม ขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 5.6% ในเดือนมกราคม
แม้ตลาดยังมองว่าเฟดต้องชั่งนำหนักระหว่าง เสถียรภาพทางการเงิน กับ ความเสี่ยงเงินเฟ้อในการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 80% ที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคมนี้
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดออกแถลงการณ์ว่า เฟดจะตรวจสอบการล่มสลายของ SVB อย่างละเอียดและโปร่งใส และจะรายงานผลในวันที่ 1 พฤษภาคม
ขณะเดียวกัน ดิ วอลล์สตรีท รายงานว่า SEC กำลังตรวจสอบการล่มสลายของSVB เช่นกัน
ในกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค หุ้น First Republic Bank เพิ่มขึ้นราว 30% หุ้น PacWest Bancorp เพิ่มขึ้น 33.85% หุ้น Western Alliance Bancorp เพิ่มขึ้น 14.36%
หุ้นโบอิ้งบวก 1.92% หลังได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบิน 78 ลำจาก 2 สายการบินของซาอุดิอาระเบีย
หุ้น Uber และหุ้น Lyft ผู้ให้บริการ ride-sharing บวก 5% และ 0.6% ตามลำดับ หลังจากศาลรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตให้ทั้งสองบริษัทปฏิบัติกับผู้ขับขี่รถยนต์ในฐานะผู้ทำสัญญาจ้างอิสระ
นักลงทุนยังจับตาข้อมูลยอดค้าปลีก และดัชนี PPI มาตรการวัดงินเฟ้อในภาคธุรกิจที่จะเผยแพร่ในวันพุธ
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 2.45%จากที่ร่วงแรงในวันก่อนหน้าจากการล่มสลายของของ Silicon Valley Bank(SVB) ในสหรัฐ และหลังจากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่สอดคล้องกับที่คาด ทำให้คาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่มากในการประชุมเดือนนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับขึ้น 0.50%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 449.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด, +1.53%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด +1.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.57 จุด เพิ่มขึ้น 130.07 จุด, +1.86%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่15,232.83 จุด เพิ่มขึ้น 273.36 จุด, +1.83%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 3.47 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 71.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม 3.32 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 77.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล