หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลง ทิ้งแบงก์ หลังคลังสหรัฐดูแลผลกระทบ SVB

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดลดลง นำโดยโตเกียว -1.61%  นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาด แม้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศสนับสนุนหน่วยงานการกำกับดูแลภาคการเงินและสถาบันประกันเงินฝากในการเข้าไปดูแลผลกระทบจากการสั่งปิดกิจการ Silicon Valley Bank(SVB) เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ แล้วก็ตาม ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าลดลง 

ตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มการเงินหลังจากธนาคาร Silicon Valley Bank ในสหรัฐล้ม ในปลายสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยความวิตกว่าจะส่งผลขยายไปภาคการเงินและภาคเทคโนโลยีทั่วโลก

ธนาคาร SVB ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ธุรกิจสตาร์ตอัพใช้บริการ ถูกแห่ถอนเงินออกถึง 42 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของเงินฝากรวมภายในวันเดียวเมื่อวันศุกร์ SVB ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบนิเวศเงินดอลลาร์ของจีน ในการสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทที่เพิ่งตั้งกิจการ ที่ฝากเงินกับธนาคารก่อนนำเข้ามาในจีนแผ่นดินใหญ่

เช้าวันนี้เวลา 9.00 น. เงินดอลลาร์อยู่ที่ 134.92-95เยน จาก 135.05-15 เยนในตลาดนิวยอร์กและ 136.40-43 เยนตลาดโตเกียวเวลา 17.00 น.ในวันศุกร์

หุ้นกลุ่มที่นำการปรับลดลงคือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มประกันภัย และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์
ณ เวลา 9.22 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ที่ 27,690.21 จุด ลดลง 453.76 จุด, -1.61%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับลดลง นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ลดลงกว่า 1% ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดหนักเมื่อวันศุกร์ แม้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศสนับสนุนหน่วยงานการกำกับดูแลภาคการเงินและสถาบันประกันเงินฝากในการเข้าไปดูแลผลกระทบจากการสั่งปิดกิจการ Silicon Valley Bank(SVB) เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ หลังมีผู้ฝากเงินแห่ถอนเงินออกในปลายสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐในตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น

ในแถลงการณ์ร่วมกระทรวงการคลังสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ออกมาในคืนวันอาทิตย์ ประกาศหลายมาตรการเพื่อรักษาเถสียรภาพของระบบธนาคารและยืนยันว่า ผู้ฝากเงินของ SVB สามารถเข้าถึงบัญชีของตัวเองได้เต็มที่ โดยเฟดจะปล่อยเงินกู้ให้สถาบันการเงินผ่าน Bank Term Funding Program เป็นเวลา 1 ปี แลกกับสินทรัพย์ค้ำประกันที่มีคุณภาพทั้งพันธบัตรและสินทรัพย์ประเภทอื่นที่สถาบันการเงินถือครอง

นอกจากนี้ยังประกาศเข้าควบคุมกิจการของ Signature Bank ในนิวยอร์ก

สถานการณ์ในภาคธนาคารที่สร้างความกังวล ทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดอาจจะไม่ต้องการซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงอีก ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ อย่างไรก็ตามก็ต้องดูตัวเลขเงินเฟ้อที่จะเผยแพร่ในวันอังคาร ที่หากยังคงอยู่ในระดับสูง ก็จะสร้างแรงกดดันให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก แม้ระบบการเงินประสบภาวะวิกฤติ

นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และยังคงเดินหน้านโยบายการเงินตึงตัวต่อไป

ในจีน การประชุมสภาประชาชนจะเสร็จสิ้นในวันนี้พร้อมกับการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นาย หลี่ เฉียง
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,241.85 จุด เพิ่มขึ้น 11.78 จุด, +0.36%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 19,515.89 จุด เพิ่มขึ้น 195.97 จุด, +1.01%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,379.84 จุด ลดลง 14.75 จุด, -0.62 %
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 15,407.74 จุด ลดลง 118.46 จุด, -0.76%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 0.24 ดอลลาร์หรือ 0.31% ซื้อขายที่ 76.44ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 0.33 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ซื้อขายที่ 82.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล