ดาวโจนส์ปิดลบ 84 จุด รายงานประชุมเฟดตอกย้ำจุดยืนต่อสู้เงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 84 จุด , ดัชนี S&P500 ลดลง 0.16% รายงานการประชุมเฟดตอกย้ำจุดยืนต่อสู้เงินเฟ้อ ด้านดัชนี Nasdaq บวก 0.13% หลังบอนด์ยีลด์ลดลง ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 3% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์2566 ปิดที่ 33,045.09 จุด ลดลง 84.50 จุด หรือ 0.26% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากการที่นักลงทุนวิเคราะห์รายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมาของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เพื่อหาสัญญานการดำเนินนโยบายการเงินระยะต่อไปในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,991.05 จุด ลดลง 6.29 จุด, -0.16%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,507.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.77 จุด, +0.13%

รายงานการประชุมเฟดในช่วงวันที่ 31 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดตั้งใจที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่เปิดที่จะแตะจุดสิ้นสุดในช่วงที่เหลือของปี

รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าเฟดมีความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่เงินเฟ้อยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวมาก

นอกจากนี้ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เพียง 0.25% และแม้ข้อมูลเงินเฟ้อในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวเมื่อเทียบรายเดือน แต่ย้ำว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะเห็นว่าระดับราคาในวงกว้างลดลงชัดเจนและมั่นใจว่าเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง

รายงานประชุมของเฟดเผยแพร่ออกมาหลังการให้ความเห็นของนายเจมส์ บุลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ

ไมค์ โลเวนการ์ตจาก มอร์แกน แสตนเล่ย์กล่าวว่า จุดเลวร้ายสุดของเงินเฟ้ออาจจะผ่านพ้นไปแล้วแต่ก็ยังเกินกว่ากรอบเป้าหมายของเฟด แต่ที่ชัดเจนคือปัจจัยเสี่ยงของตลาดยังไม่หมด และนักลงทุนควรเตรียมพร้อมกับความผันผวนจากผลของการขึ้นดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเป็นเวลานาน

อัตราผลตอบแทนพันบัตรรัฐบาลทรงตัวหลังจากที่ปรับขึ้นในวันก่อนหน้า

หุ้นอินเทลลดลงกว่า 2% หลังประกาศลดการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสลงกว่า 60%

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงจากราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดย หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.31% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.41%

นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2022 c]tดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง โดยกลุ่มเหมืองแร่ลดลง 2.1% กลุ่มแบงก์ลดลง 1.6% ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ครั้งที่ผ่านมา ด้วยความกังวลวาเฟเดจะขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาด

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 462.22 จุด ลดลง 1.55 จุด, -0.33%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,930.63 จุด ลดลง 47.12 จุด, -0.59%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,299.26 จุด ลดลง 9.39 จุด, -0.13%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,399.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด, +0.02%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.41 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 73.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 12.45 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 80.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล