HoonSmart.com>> กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF เปิดงบไตรมาส 3 ปี 65/66 สิ้นสุดธ.ค.65 รายได้รวม 948.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้ค่าโดยสารพุ่ง จำนวนผู้โดยสารเพิ่มหลังโควิดคลาย งดจ่ายเงินปันผลเหตุขาดทุนสะสม จ่ายเงินคืนทุนผู้ถือหน่วย 0.162 บาท ด้าน “บล.ทิสโก้” ชี้กำไรจากการลงทุนดีกว่าคาด ผู้โดยสารฟื้นตัวต่อเนื่อง แนะ “ซื้อ” ให้เป้า 5.70 บาท
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565/2566 (ต.ค.2565-ธ.ค.2565) มีรายได้รวม 948.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10.1% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิจากการดำเนินงานระบบไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทานซึ่งอยู่ที่ 946.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10.0% จากไตรมาสก่อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโรโรนา 2019 (COVID-19) ที่ค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
กองทุนมีรายได้ค่าโดยสารจำนวน 1,484.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.1% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 96.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.3% จากไตรมาสก่อน เป็น 45.9 ล้านเที่ยวคน จากการยกเลิกข้อกำหนดของCOVID-19 ทั่วประเทศ
ขณะที่อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเท่ากับ 32.3 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง ลดลงเล็กน้อย 1.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลงเล็กน้อย 0.2% จากไตรมาสก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเท่ากับ 538.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายจากค่าพอยท์แรบบิท รีวอร์ดส และค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ข้อมูลและค่าบริการทางการตลาด ค่าซ่อมบำรุงจากค่าใช้จ่ายในการศึกษาการปรับปรุงรถไฟและค่าสาธารณูโภค เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและชั่วโมงการดำเนินรถเพิ่มขึ้น (ปีก่อนมีเคอร์ฟิวที่ส่งผลกระทบต่อชั่วโมงการเดินรถช่วงวันที่ 12 ก.ค. ถึง 31 ต.ค. 2564) ทำให้รถไฟกินไฟมากขึ้น รวมถึงค่าไฟฟ้าผันแปร (FT cost) เพิ่มขึ้น
ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,195.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3 เท่าจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1 เท่าจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการลงทุนสุทธิและมีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 98.6% เทียบกับ 96.3% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 98.4% ในไตรมาสก่อน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุน BTSGIF แจ้งว่า รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 – 31 ธ.ค.2565 กองทุนมีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 จำนวน 14,575.3 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับงวดนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน โดยจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในไตรมาส 3 ปี 65/66 อัตรา 0.162 บาทต่อหน่วย ในรูปแบบของการจ่ายคืนเงินทุนจะจ่ายวันที่ 15 มี.ค.2566
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ มองกำไรจากการลงทุนของ BTSGIF ดีกว่าคาด ถ้าไม่รวมกำไรจากการตีมูลค่ากองทุนขึ้น 260 ล้านบาท จะมีกำไรจากการลงทุนไตรมาส 3 ปี 2565/2566 ที่ 935 ล้านบาท +147% YoY, +10% QoQ ดีกว่าคาดจากจำนวนผู้โดยสารฟื้นตัวดีต่อเนื่อง และมี Upside ต่อประมาณการของเรา, BTSGIF จ่ายเงินคืนทุน 0.162 บาท/หุ้น XN 24 ก.พ. ส่วนทั้งปี 2565/2566 คาดจ่าย 0.53 บาท/หุ้น ให้ Yield 14%, เป้าพื้นฐาน 5.7 บาท
ราคา BTSGIF ปิดตลาดภาคเช้า 15 ก.พ.2566 ที่ 3.88 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 15.01 ล้านบาท