ดาวโจนส์ลบ 127 จุด บอนด์ยีลด์ขึ้น ตลาดแรงงานแกร่งวิตกดอกเบี้ยปรับขึ้น

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 127 จุด ตลาดแรงงานแกร่งวิตกเฟดยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าคาด กระทบต่อความเชื่อมั่นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 3.5%  ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก  ราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า 2 ดอลลาร์ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 3ก.พ.2566 ปิดที่ 33,926.01 จุด ลดลง 127.93 จุด หรือ 0.38% หลังการรายงานข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกันผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาดก็มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,136.48 จุด ลดลง 43.28 จุด, -1.04%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,006.96 จุด ลดลง 193.86 จุด, -1.59%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.15% ดัชนี S&P500 บวก 1.62% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.31%

กระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่ง สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2022 และสูงกว่า 187,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 1969 และต่ำกว่า 3.6% ที่นักวิเคราะห์คาด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 3.5% หลังการเผยแพร่ตัวเลขจ้างงาน

ตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งจะผ่อนคลายแรงกดดันต่อเฟดในการกลับทิศการขึ้นดอกเบี้ย

อเล็กซานดรา วิลสัน-เอลิซอนโด จากเจพี มอร์แกน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลจะเป็นหลักประกันว่าการลดดอกเบี้ยมีโอกาสน้อย เพราะไม่มีสัญญาณชัดเจนที่จะกดดันการลดดอกเบี้ย

รอน เทมเปืล จาก Lazard กล่าวว่า เฟดจะไม่สามารถผ่อนคลายได้จนกวาตลาดแรงงานจะอ่อนตัวลงอย่างมีนัย จากระดับปัจจุบัน และดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงอีกนานกว่าที่ตลาดคาด

นอกจากนี้สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงานดัชนีภาคบริการเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 55.2 จาก 49.2 ในเดือนธ.ค.

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หุ้นแอปเปิ้ลบวก 2.4% จากที่ร่วงลงหลังกำไรต่ำกว่าคาด หุ้นอัลฟาเบทลดลง 2.8% หุ้นแอมะซอนลดลง 8.4% จากผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่บวก 1.5%และกลุ่มพลังงาน เพิ่มขึ้น 1.0%จากมุมมองในทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจช่วยกลบความกังวลต่อดอกเบี้ยสหรัฐที่ยังคงเพิ่มขึ้นนานกว่าที่คาด ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่น ซึ่งอาจช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง
นอกจากนี้กิจกรรมทางธุรกิจที่กลับมาขยายตัวในเดือนมกราคม บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยุโรปอาจรอดพ้นจากภาวะหดตัวได้อีกครั้งในไตรมาสนี้ และอาจดีขึ้นต่อเนื่อง

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 460.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด, +0.34%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,901.80 จุด เพิ่มขึ้น 81.64 จุด, +1.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,233.94 จุด เพิ่มขึ้น 67.67 จุด, +0.94%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,476.43 จุด ลดลง 32.76 จุด, -0.21%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 2.49 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 73.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.23 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 79.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล