HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 4.32 จุด แกว่งแคบ กลับมากังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หลัง GDP ไตรมาส 3/65 สหรัฐออกมาดีกว่าคาดที่ 3.2%
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 ธ.ค.2565 ณ เวลา 10.02 น. อยู่ที่ระดับ 1,612.35 จุด ลดลง 4.32 จุด หรือ -0.27% มูลค่าซื้อขาย 2,330.38 ล้านบาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองดัชนีฯ ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ความกังวล ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยกลับมาอีกครั้งหลัง GDP สหรัฐฯออกมาดี โดยสหรัฐฯ วานนี้(22) มีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าคาดที่ 3.2% ซึ่งทำให้นักลงทุนกลับมากังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้ง อาจจะมีผลต่อตลาดหุ้นเอเซียเช้านี้ด้วย
จีนออกมาตรการผ่อนคลาย คือลดวันกักตัวของคนต่างชาติ เป็น “0+3”เริ่ม ม.ค. เรามองเป็นอีกหนึ่งขั้นของการผ่อนคลาย แต่ Comment ในต่างประเทศยังมองว่า อาจจะตามมาด้วยการระบาดรอบใหม่ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนมีแนวโน้มที่ดี แต่ขอรอดูว่าการควบคุมการระบาดจะทำได้ขนาดไหน
ยูเครน-รัสเซีย หลังจากไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน และกล่าวว่าสงครามจะต้องนำไปสู่ความยุติ เราจึงมองว่ายังต้องจับตาดูสถานการณ์ในการหาทางออกของแต่ละฝ่าย หากจบลงได้จะดีต่อตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นไทยเริ่มใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว การซื้อขายอาจจะเบาบางลง รวมถึงการที่หุ้น DELTA เข้า SET50/SET100 ทำให้เกิดความผันผวนในตลาด
ภาษีขายหุ้นที่ถูกวิจารณ์กันในหลาย ๆ ด้าน อาจทำให้รัฐบาลต้องเลื่อนการเก็บภาษีหุ้นออกไป ซึ่งจะดีต่อตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ Core PCE ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะขยายตัวชะลอลง (คาด 4.6% YoY)
ด้านกลยุทธ์ มองตลาดไทยมีแรงซื้อเข้ามา ท่ามกลางความกังวลของตลาดที่มีอยู่ กลยุทธ์ ยังเป็น trading ช่วงสั้นๆ และหุ้นที่จะฟื้นตัวหากจีนกลับมาเปิดเมืองได้จริงๆ คือ WICE, RCL, KCE ส่วนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านปันผลสูงๆ อาทิ PTT, KKP ด้วย yield ที่สูงทำให้ราคายืนสวนทางตลาดได้, หุ้นราคาลงแรง(ลึก) เล่นเก็งกำไรช่วงสั้น PIMO
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA อยู่ที่ 708.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +0.57% มูลค่าซื้อขาย 181.27 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 143.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.03% มูลค่าซื้อขาย 163.47 ล้านบาท
TKS อยู่ที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +7.08% มูลค่าซื้อขาย 94.87 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 13.40 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.47% มูลค่าซื้อขาย 86.37 ล้านบาท
CPN อยู่ที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.36% มูลค่าซื้อขาย 80.63 ล้านบาท