HoonSmart.com>> EXIM BANK สานพลังหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีฉลองความสำเร็จและมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตรครบวงจร Top X EXECUTIVE PROGRAM รุ่นที่ 1 คาดว่าจะเกิดมูลค่าการค้าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท จากการจับคู่เจรจาธุรกิจ ผู้จบหลักสูตรสามารถสมัครขอรับสินเชื่อ “EXIM Export Ready Credit” วงเงินกู้หมุนเวียนสูงสุด 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 3.50% ต่อปี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร หลักสูตร Top X EXECUTIVE PROGRAM รุ่นที่ 1 หลักสูตรระยะสั้นสำหรับเจ้าของกิจการและผู้บริหารเพื่อการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อการส่งออก โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ) นายชาติชาย พานิชชีวะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เข้าร่วมพิธีและแสดงความยินดี ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับ 3 สภาธุรกิจชั้นนำและสถาบันอุดมศึกษาในการจัดให้มีหลักสูตร Top X ครั้งนี้นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการสานพลังระหว่างภาครัฐ ภาคการเงินการธนาคาร ภาคธุรกิจ และสถานศึกษาในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมิติของเงินทุน องค์ความรู้ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำพาธุรกิจก้าวผ่านความแปรปรวนของเศรษฐกิจและการค้าโลกไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคง ทำให้ผู้ประกอบการไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในระบบประมาณ 3.2 ล้านรายและทำธุรกิจส่งออกเพียง 1% สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทัพสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลกที่เปิดกว้าง นับเป็นขุมพลังใหม่ที่เป็นความหวังในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK รายงานความสำเร็จของหลักสูตร Top X รุ่นที่ 1 ซึ่งเกิดจากการสานพลังระหว่าง EXIM BANK กับองค์กรพันธมิตร เพื่อสร้างและขยายจำนวนนักธุรกิจระหว่างประเทศชั้นแนวหน้าให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลาการอบรมกว่า 2 เดือน ผู้เข้าร่วมอบรมทั้ง 50 ท่านได้รับความรู้อย่างเต็มอิ่ม ได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ รวมถึงประสบการณ์จริงจากการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การดูงานนอกสถานที่ และที่สำคัญ คือ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในลักษณะ Sandbox Business Matching ซึ่ง EXIM BANK ทำงานร่วมกับทีมประเทศไทยนำพาผู้ประกอบการ Top X รุกตลาดต่างประเทศ ทั้ง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตะวันออกกลาง โดยการค้าการลงทุนที่เกิดขึ้นจริงภายใต้ Sandbox รวมถึงมีการขยายผลต่อ คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 1,000 ล้านบาทจากคู่เจรจากว่า 50 คู่ ผู้ผ่านการอบรมสามารถสมัครขอรับบริการสินเชื่อ “EXIM Export Ready Credit” วงเงินกู้หมุนเวียนสูงสุด 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 3.50% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 3 ปี ฟรี! ค่า Front-end Fee ของ EXIM BANK
“EXIM BANK มุ่งมั่นขยายความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อติดอาวุธผู้ประกอบการไทยให้พร้อมออกไปแข่งขันในตลาดการค้าโลกได้อย่างประสบความสำเร็จ สร้างผู้ส่งออกรายใหม่จำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเติมความรู้ เติมทุนทุกวงจรธุรกิจ และเติมเครือข่ายหรือช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดย EXIM BANK จะพัฒนาหลักสูตร Top X รุ่นที่ 2 ในปี 2566 ต่อไป เพื่อสร้าง Ecosystem วงจรการค้าที่ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทย เชื่อมโยงกับการพัฒนาในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว