นักวิเคราะห์และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเมินผลกระทบไม่มากนัก กรณีธปท.สกัดสินเชื่อบ้านแข่งดุ สั่งบ้านหลัง 2 และ บ้านราคาเกิน 10 ล้าน ต้องดาวน์ 20% เอเชียพลัสคาดจะเห็นการเร่งโอน แสนสิริยอมรับมีผลบ้าง บ้านราคา 10 ล้านบาทรอโอนปีหน้าไม่มาก ส่วนใหญ่เฉลี่ย 5-8 ล้านบาท ลูกค้าซื้อบ้านหลังแรก และ 70% ซื้อสด
ในที่สุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตราการในการดูแลสินเชื่อบ้านแข่งดุ โดยสั่งบ้านหลัง 2 และ ราคาเกิน 10 ล้านบาท ต้องวางเงินดาวน์ 20% คาดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่ามีผลกระทบจำกัด โดยบล.เอเซียพลัส ระบุว่า ตอนนี้การซื้อที่อยู่อาศัย วางเงินดาวน์ส่วนใหญ่ กำหนดไว้ 15-20% และที่อยู่อาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่กำหนดเงินดาวน์เกิน 20% อย่างไรก็ตาม อาจเห็นการเร่งขายและโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อให้ทันใช้เกณฑ์เดิมภายในไตรมาส 4/2561
ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2561 มียอดขายรอโอนหรือ Backlog ประมาณ 3.32 แสนล้านบาท คาดส่วนที่รอรับรู้รายได้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ราว 1.16 แสนล้านบาท แยกเป็นของบริษัทเอง 8.13 หมื่นล้านบาท และร่วมลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายวิจัยเอเซียพลัสคงแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย เท่ากับตลาด เลือกหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง และมีโครงสร้างรายได้จากแนวราบเป็นหลัก ได้แก่ LH, QH และ SC
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าเกณฑ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อคุณภาพ Backlog ไม่มาก บริษัทที่มีคอนโดมิเนียมราคาเกิน 10 ล้านบาทในพอร์ตเช่น SIRI, AP, SC ก็มีการวางดาวน์สูงกว่า 20% เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านหลังที่ 2
“ผลกระทบจึงเป็นแค่จิตวิทยาไม่กระทบพื้นฐาน แนะนำซื้อสะสม รับการเติบโตในครึ่งปีหลังของปี 2561 โดดเด่น ได้แก่ SC, GOLD ซึ่งเน้นแนวราบไม่กระทบ” บล.โนมูระพัฒนสิน
นักวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำหลีกเลี่ยง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม คือ ORI, ANAN, AP, LPN คาดจะส่งผลเชิงลบต่อประมาณการในอนาคต
ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัด คือ GOLD เพียงบริษัทเดียว เนื่องจากไม่มีคอนโดมิเนียมและมีพอร์ตของราคาเกินกว่า 10 ล้านบาทเพียงเล็กน้อย
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ (SIRI) กล่าวว่า บริษัทคงได้รับผลกระทบบ้าง เพราะมีคอนโดฯที่จะโอนในปีหน้า มีราคาหลัก 10 ล้านบาท แต่เป็นจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่ราคา 5-8 ล้านบาท
นอกจากนั้นลูกค้าของแสนสิริ เป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านหลังแรก และลูกค้าประมาณ 70% จ่ายเงินสด ส่วนที่เหลืออีก 30% ก็คงไม่ได้กู้เต็มเพดานที่ทางแบงก์กำหนดไว้
“มาตรการนี้จะมีผลต่อยอดขายในปีหน้าบ้าง แต่เชื่อว่าแสนสิริยังสามารถเติบโตได้ 10-15% แต่ทั้งนี้ต้องรอดูยอดขายในสิ้นปีนี้ก่อนว่าจะทำได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทหรือไม่ จากเป้าหมายเดิมที่ขยับขึ้นมาจาก 45,000 ล้านบาท โดยรวมแล้วยังเติบโต แต่ไม่น่าจะก้าวกระโดด 30% เหมือนในปี 2561 เทียบปี 2560” นายวันจักร์ กล่าว
อ่านประกอบ
ธปท.สกัดสินเชื่อบ้านแข่งดุ สั่งบ้านหลัง 2 – ราคาเกิน 10 ล้าน ต้องดาวน์ 20%