Hoonsmart.com>>”ปูนซิเมนต์ไทย” มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดลดลงเหลือ 3.85 แสนล้านบาท จาก 4.63 แสนล้านบาทเมื่อสิ้นปี 64 หายไปกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท จากราคาหุ้นลดลงอย่างมากจากสูงสุด 402 บาทในรอบ 1 ปี เหลือ 321 บาทล่าสุด 21 ต.ค. หรือลดลง 20% นักวิเคราะห์จาก 16 โบรกเกอร์ เสียงส่วนใหญ่ 7 รายแนะนำ”ถือ” 6 รายให้”ซื้อ” และมี 3 รายแนะนำ “ขาย” ราคาที่เหมาะสมเฉลี่ย 342 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SCC ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา หลังจากเคยลงไปแตะต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 244 บาท(เมื่อวันที่ 9 มี.ค.63) ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมา จากการคาดการณ์ผลประกอบในปี 2564 ที่ดีขึ้น ราคาหุ้นกลับมาแตะ 474 บาทได้เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 แต่หลังจากนั้นก็เป็นทิศทางลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดลดลงไป 7.8 หมื่นล้านบาทเหลือ 3.85 แสนล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี(P/BV) ลดลงจาก 1.29 เท่าเหลือ 1.07 เท่าในปัจจุบัน ผลจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง
SCC ราคาร่วงจน P/BV เหลือ 1 เท่า
ณ 21ต.ค.65 2564 2563 2562 2561 2560
มาร์เก็ตแคป(แสนลบ.) 3.85 4.63 4.53 4.70 5.23 5.80
ราคาหุ้น(บาท) 321 386 378 392 436 484
P/BV(เท่า) 1.07 1.29 1.50 1.71 1.96 2.30
P/E(เท่า) 11.36 9.87 13.66 13.30 11.17 10.57
สำหรับในปี 2565 ราคา SCC เคยสูงสุดที่ 402 บาท(เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2565) และลงไปประมาณ 100 บาท แตะจุดต่ำสุดของปีที่ 307 บาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2565 ก่อนกระเตื้องในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 316-321 บาท
จากผลการดำเนินงานในปี 2564 SCC มีรายได้ 504,706 ล้านบาท กำไรสุทธิ 54,736 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 39.31 บาท ผลงานครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้ 313,021 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18,962 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 15.65 บาท ถูกคาดการณ์ว่าผลงานในปี 65 กำไรสุทธิจะลดลงจากปีก่อนค่อนข้างแน่นอน โบรกเกอร์ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ และปรับลดราคาเป้าหมายลง มีคำแนะนำที่แตกต่างกันไป
เว็ปไซต์ settrade.com ระบุว่าความเห็นจากนักวิเคราะห์ 16 โบรกเกอร์ แนะนำ “ซื้อ” จำนวน 6 ราย, “ถือ” จำนวน 7 ราย และ “ขาย” 3 ราย ราคาเหมาะสมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 342 บาท ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ต.ค. SCC จะแถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ต่อสื่อมวลชน
บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” คงเป้าราคาเหมาะสม 400 บาท โดยประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส3/65 SCCจ ะมีกำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาท (-78% QoQ, -68% YoY) ต่ำสุดในรอบหลายปี
ในแต่ละกลุ่มธุรกิจของ SCC คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะขาดทุน เพราะอุปสงค์ทรุดตัวหนักจากนโยบายควบคุมของจีน และปัญหาเงินเฟ้อ-รัสเซีย ทำให้ Margin อยู่ระดับ Break-even เท่านั้น และคาดว่ามีขาดทุนสต็อก 1.7 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว YoY จากฐานต่ำ แต่จะลดลง QoQ จากต้นทุนถ่านหินและปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ธุรกิจ Packaging ฟื้นตัว QoQ เล็กน้อยจากอัตราผลิต และค่าขนส่ง
แนวโน้มในไตรมาส 4/65 ยังเป็นช่วงที่ท้าทาย โดยการฟื้นตัวของธุรกิจปิโตรเคมีขึ้นอยู่กับการผ่อนปรนมาตรการควบคุมของจีน ซึ่งมีความไม่แน่นอน
ราคาหุ้นมี Valuation อยู่ในระดับต่ำ และมี Upside gain สูง แต่ระยะสั้นไม่มี Catalyst บวก, คาดการณ์ปี 2565 –2566 ยังมีความท้าทาย, หุ้นมีความเสี่ยงถูกตลาด Downgrade กำไร และแผน IPO SCGC อาจล่าช้าจากสภาพตลาดปิโตรเคมีที่อ่อนแอ คงคำแนะนำ เทรดดิ้ง ราคาเหมาะสม 400 บาท มองว่านักลงทุนอาจรอให้ผ่านงบไตรมาส 3/65 ก่อนพิจารณาการลงทุน
#SCC