HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดร่วง 11.38 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า, ธนาคาร และอาหารเครื่องดื่ม ดัชนีฯมีโอกาสที่จะลงมาแถว 1,500 หากหลุดก่อนการประชุมเฟด ให้ทยอยซื้อได้ และซื้อเพิ่มหลังผ่านการประชุมเฟดไปแล้ว มอง Valuation น่าสนใจ สถาบันไทยขาย 2,091.67 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อ 3,113.24 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งออกด้านข้างแนวรับ 1,520 แนวต้าน 1,540 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 ก.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,533.43 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 57,674.57 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,541.55 จุด ต่ำสุด 1,520.77 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,562.83 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,091.67 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,113.24 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 469.26 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ร่วงแรง จากแรงขายหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มอาหารเครื่องดื่ม โดยกลุ่มโรงไฟฟ้ารับแรงกดดันจากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น จากราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นมาราว 5% และก๊าซธรรมชาติก็ปรับขึ้นด้วย ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าก็ปรับขึ้นไปมากแล้วก่อนหน้านี้
กลุ่มธนาคารมีความกังวลหนี้ภาคครัวเรือนสูง จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เตรียมเสนอนายกฯแก้ปัญหาหนี้ประชาชน ทำให้กังวลกันว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องเข้ามาร่วมดูแลด้วยหรือเปล่า จึงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารก่อน ส่วนกลุ่มอาหารเครื่องดื่ม ได้รับแรงกดดันจากเมียนมาสั่งระงับจ่ายหนี้ต่างประเทศ ซึ่งเป็นแรงกดดันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ดี เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า และเงินยูโรกลับมาแข็งค่า ก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค.นี้ และหลังจากนั้นก็ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งดัชนีฯมีโอกาสที่จะลงมาแถว 1,500 จุด และหากดัชนีฯหลุดแนว 1500 จุดก่อนการประชุมเฟดก็ให้ทยอยซื้อได้ และซื้อเพิ่มหลังผ่านการประชุมเฟดไปแล้ว เนื่องจาก Valuation น่าสนใจ แต่ถ้าดัชนีฯลงมาแถว 1,500 จุด หลังการประชุมเฟดก็ให้ซื้อได้เลย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 20 ก.ค.2565 ตลาดฯคงจะแกว่งออกด้านข้างในช่วงรอดูการประชุม ECB โดยให้แนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,540 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB ปิดที่ 91.25 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -4.20% มูลค่าซื้อขาย 4,136.19 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -1.42% มูลค่าซื้อขาย 2,729.94 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.27% มูลค่าซื้อขาย 2,206.15 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.72% มูลค่าซื้อขาย 2,004.73 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.78% มูลค่าซื้อขาย 1,801.64 ล้านบาท