HoonSmart.com>>หุ้น BH-THG-BDMS นำดิ่งกลุ่มโรงพยาบาล ขายทำกำไรหลังขึ้นไปมากแล้ว ประกอบกับผลงานของกลุ่มโรงพยาบาลงวดไตรมาส 2/65 จะลดลงจากไตรมาส 1/65 เกือบทุกโรงพยาบาล เหตุภาครัฐฯตัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ยกเว้นผู้ป่วยอาการหนัก สำหรับ BH และ BDMS ยังน่าซื้อ-เล็งปีนี้ผลงานดีจากรับลูกค้าต่างชาติมากขึ้น ส่วนโรงพยาบาลที่รับลูกค้าโควิดมากก็มีโอกาสที่ผลงานจะลดลง
เมื่อเวลา 11.45 น.หุ้น BH, BDMS และ THG นำดิ่งกลุ่มโรงพยาบาล ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาค่อนข้างหนาแน่น นำโดยหุ้น BH ลบ 2.92% มาอยู่ที่ 183.00 บาท ลดลง 5.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 378.46 ล้านบาท
หุ้น THG ลบ 2.37% มาอยู่ที่ 61.75 ่บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 282.85 ล้านบาท
หุ้น BDMS ลบ 1.85% มาอยู่ที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 764.03 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลหลายตัวที่อ่อนตัวลงในวันนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไรหลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 คาดว่าจะสู้ผลงานไตรมาส 1/65 ไม่ได้ เนื่องจากภาครัฐฯได้ตัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ยกเว้นกรณีอาการหนัก ทำให้ผู้ป่วยจะต้องใช้สิทธิ์ตามที่ตัวเองมีอยู่ อย่างประกันสังคม ซึ่งแตกต่างจากปีที่แล้วที่ภาครัฐฯจ่ายให้ทั้งหมดทุกกรณี ส่งผลให้ผลงานของกลุ่มโรงพยาบาลงวดไตรมาส 2/65 จะลดลงจากไตรมาส 1/65 เกือบทุกโรงพยาบาล
ทั้งนี้ BDMS คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 จะอยู่ที่ 2,673 ล้านบาท ลดลง 22% q0q แต่เติบโต 84% yoy ่ส่วน BH คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 738 ล้านบาท เติบโต 2% qoq และเติบโต 240% yoy ซึ่งหุ้น BDMS และ BH ราคาย่อตัวลงสามารถเข้าไปลงทุนได้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีลูกค้าต่างชาติ และได้รับผลดีจาการเปิดประเทศ และขณะนี้ลูกค้าต่างชาติก็เริ่มเข้ามาแล้ว ซึ่งโรงพยาบาลไหนที่มีลูกค้าต่างชาติมากก็จะยิ่งเติบโตแรง จึงแนะนำ”ซื้อ”หุ้น BDMS ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 31 บาท และ BH ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 210 บาท
สำหรับโรงพยาบาลที่ไม่มีลูกค้าต่างชาติ และรับลูกค้าติดโควิดมาก ผลงานก็มีโอกาสจะลดลงได้ในปีนี้ ซึ่งก็มี CHG, BCH เป็นต้น