HoonSmart.com>>”ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป”(TISCO) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 มีจำนวน 1,848.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.38 ล้านบาท หรือ 10.9% จากไตรมาส 2/64 สาเหตุหลักปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจนายหน้าประกันภัยสามารถฟื้นตัวได้ดี 20.2% ค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) แจ้งว่า กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 1,848.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.38 ล้านบาท หรือ 10.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 1,666.06 ล้านบาท
สาเหตุหลักมาจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านช่องทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” ตามแผนการขยายสาขา ประกอบกับธุรกิจนายหน้าประกันภัยสามารถฟื้นตัวได้ดีที่ 20.2% เป็นไปตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง ตามการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่รายได้รวมจากการดำเนินงานหลักชะลอตัวลง เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุน ทั้งรายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อ่อนตัวลง 29.0% ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลงท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุน รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนลดลง 15.5% จากการกองออกทุนใหม่ที่ลดลงในสภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับการรับรู้ผลกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง
สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เป็นไปตามคุณภาพสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมได้ดีด้วยระดับสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ที่ 2.20% ของสินเชื่อรวม อีกทั้งความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 ปรับตัวลดลง สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับเงินสำรองยังคงอยู่ในระดับสูง จึงลดระดับการตั้งสำรองลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าและเป็นไปตามคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) ยังคงแข็งแกร่งที่ 253.1%
กำไรต่อหุ้นไตรมาส 2 ปี 2565 เท่ากับ 2.31 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 2.08 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปี 2564 และจาก 2.24 บาทต่อหุ้นไตรมาส 1 ปี 2565 ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ 18.0%