HoonSmart.com>>ผู้บริหารมั่นใจผลงานปี 65/66 จะพลิกเป็นกำไร โดยตั้งเป้ารายได้ 6,500–7,000 ล้านบาท รับแรงหนุนจำนวนผู้โดยสาร BTS การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว เพิ่มยอดขายสื่อโฆษณา-บริการด้านดิจิทัล ควบรวม Fanslink ที่มีผลงานเติบโตอย่างโดดเด่นแบบเต็มปี โบรกฯส่องแนวโน้มไตรมาส 1/66 (เม.ย-มิ.ย.65) ฟื้นตัวตามโควิดคลี่คลาย มี Upside risk จากการลงทุนใน NINE ส่วนไตรมาส 4/65 ขาดทุนน้อยกว่าคาดจากรายการพิเศษช่วย
VGI พุ่ง 7.91% มาอยู่ที่ 5.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.37 บาท มูลค่าการซื้อขาย 889 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.72 บาท ขึ้นสูงสุด 5.15 บาท และต่ำสุด 4.72 บาท
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ (VGI) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่า ในปี 2565/66 VGI จะกลับมาเติบโตขึ้นอย่างน้อยที่ 60-70% และพลิกมาทำกำไรอีกครั้งแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 6,500–7,000 ล้านบาท รับแรงหนุนของจำนวนผู้โดยสาร BTS และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายสื่อโฆษณา และบริการด้านดิจิทัลดีขึ้น รวมถึงการควบรวมผลการดำเนินงานของ Fanslink ที่มีผลงานเติบโตอย่างโดดเด่นแบบเต็มปี ด้านงบประมาณการลงทุนบริษัทได้จัดสรรงบไว้อยู่ที่ 700 ล้านบาท เพื่อรองรับโอกาสที่จะเข้ามาต่อยอดความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างการเติบโตให้กับ VGI ได้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
บริษัทสามารถนำเสนอบริการการตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ ได้อย่างครอบคลุม โดยพัฒนาการสำคัญของธุรกิจในปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อโฆษณา ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่แบรนด์ระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะสื่อ BTS Train Body ส่วนธุรกิจบริการชำระเงิน เดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท แรบบิท แคช จำกัด หรือ RCash ได้เปิดตัวทดลองแพลตฟอร์มบริการสินเชื่อดิจิทัล เพื่อนำเสนอบริการสินเชื่อแบบไร้รอยต่อ ในส่วนของบริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด หรือ RCare ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 70 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นนายหน้าประกันภัยอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้านบัตรแรบบิท ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านใบ ส่วนผู้ใช้ Rabbit LINE Pay มีจำนวนทั้งสิ้น 9.5 ล้านคน
ด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย มีความก้าวหน้าอย่างมาก จากการร่วมเป็นพันธมิตรกับ Fanslink และบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ Jaymart โดยล่าสุดได้เข้าลงทุนและมอบสิทธิการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บน BTS Skytrain ให้แก่บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) โดยธุรกรรมนี้จะช่วยให้ VGI สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่เชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอช่องทางการให้บริการต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท VGI ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมจำนวน 0.04 บาทต่อหุ้นในปี 2564/65 โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.02 บาทต่อหุ้นในเดือนมีนาคม 2565 ในขณะเดียวกันจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายจำนวน 0.02 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2564/65 โดยการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ”ซื้อ”หุ้นบริษัท วีจีไอ (VGI) ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท มีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการไตรมาส 4/65 (ม.ค.-มี.ค.65) ขาดทุนสุทธิ -45 ล้านบาท ถ้าไม่รวมรายการพิเศษ ขาดทุนจะอยู่ที่ -93 ล้านบาท ใกล้เคียงคาด และทรงตัว y-y q-q จากสถานการณ์โควิด-19 ฉุดรายได้จากส่วนงานบริการ Digital และยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม
แนวโน้มไตรมาส 1/66 (เม.ย-มิ.ย.65) ผลประกอบการฟื้น q-q ตามสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วและมี Upside risk จากการเข้าลงทุนใน NINE