HoonSmart.com>>”เซ็นทรัลพัฒนา” ประกาศแผน 2 ปี ลงทุน 2 หมื่นล้านบาท/ ปี เพิ่มโครงการระดับโลกและเปิดใหม่ปีละ 2-3 โครงการ ปลายปีนี้เปิดจันทบุรี ส่วนปี 66 เปิดเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ วางแผนกระจายทั่วประเทศ 30 จังหวัด ศึกษาขยายศูนย์การค้าที่เวียดนามและอาเซียน ปี 65 คาดมีรายได้รวม 3.6 หมื่นล้านบาท นักวิเคราะห์ 6 ใน 9 แนะนำซื้อ
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา CPN) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทฯมีศูนย์การค้า 36 แห่ง วางแผน 5 ปีจะมีมากกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศ สร้างความเจริญ และยกระดับคุณภาพชีวิต
“เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับทุกคน มีบทบาทการเป็นผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ได้เป็นผู้บุกเบิก Retail Landscape สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศและพัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ พร้อมประสบความสำเร็จในการเป็น Center of Life มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ต่อยอดสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งให้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า, โครงการที่อยู่อาศัย, โรงแรม และออฟฟิศ ให้เป็นพื้นที่และศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ผู้คนในแต่ละส่วนได้อย่างแท้จริง”นางสาววัลยากล่าว
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ CPN เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการระดับโลก และโครงการใหม่เพิ่มอีกปีละ 2-3 โครงการ รวมถึงโครงการพลิกโฉม Major Renovation กว่า 10 โครงการ พร้อมปรับโฉมโครงการในสาขาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 2 ปีนี้ บริษัทวางงบประมาณไว้มากกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท
ในไตรมาส 4/2566 เตรียมสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมย่านราชพฤกษ์กับโปรเจ็คต์ใหม่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central WestVille) มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท บนที่ดิน 40 ไร่ ปักหมุดย่านใหม่ด้วยการ Reinventing the Neighborhood ยกระดับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพให้เป็นย่าน Upper-Class Lifestyle
พร้อมบุกเบิกเมืองศักยภาพ เตรียมเปิด “เซ็นทรัล จันทบุรี” โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท ในวันที่ 26 พ.ค. 2565 รองรับความเจริญต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจ EEC ในอนาคต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรอง เจาะกลุ่มเป้าหมายไลฟ์สไตล์ดีมีกำลังซื้อ ครอบคลุมประชากร 1.8 ล้านคนในจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน กล่าวว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดโครงการ ‘เซ็นทรัล ศรีราชา’ ที่เป็นต้นแบบ Eco-Friendly Mall ในภาคตะวันออก และพื้นที่รีเทลแบบ seamless space และ เซ็นทรัล อยุธยา ที่เป็นสปอต์ไลท์ระดับโลก เติมเต็มการท่องเที่ยวอยุธยา ซึ่งทั้งสองโครงการใหม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีทราฟฟิกในช่วงเปิดตัวถึง 50,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ ยังไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์พื้นที่และประสบการณ์ใหม่ๆ ในโครงการที่มีอยู่แล้ว อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ ตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก เตรียมเปิดโซนใหม่ คือ ‘Zone I’ (โซน ไอ) รองรับร้านค้า lifestyle brand ทั้ง local & international อีกมากมาย และ ‘โซนฮักไทย’ เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทย ชาวต่างชาติในไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยว ด้าน ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย เปิดตัวเฟสสองมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 15% (ม.ค.65 เทียบกับม.ค.64 ) และ ‘เซ็นทรัล พระราม 2’ พลิกโฉมเป็น The Regional Mall of South Bangkok เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ Wealth Segment และมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25%
นอกจากนี้ยังมีโครงการพลิกโฉมศูนย์การค้าต่างๆ อีกกว่า 10 โครงการ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล พระราม 2, รามอินทรา, พัทยาบีช, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, และ ขอนแก่น เป็นต้น
ด้านนักวิเคราะห์ 9 รายให้มูลค่าเหมาะสมเฉลี่ย 62.61 บาท และค่ากลาง 65 บาท โดย 6 รายแนะนำซื้อ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) และบล.ยูโอบี เคย์เฮียน ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 66 บาท ตามด้วย CGS-CIMB ให้มูลค่า 65.50 บาท ส่วนบล.เคทีบีเอสที และบล.ธนชาต ให้ 65 บาท บล.หยวนต้าให้มูลค่ 64 บาท
ส่วน 3 บล.ที่แนะนำให้ถือ ได้แก่ บล.พาย ให้ราคา 61 บาท บล.กสิกรไทยให้ 57 บาท และบล.ทิสโก้ให้ต่ำสุดที่ 54 บาท
บล.หยวนต้าแนะนำให้ซื้อ คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว มีกไรปกติ 9,300 ล้านบาท พุ่งขึ้น 98% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและรับรู้ผลประอบการของ SF เต็มปี โดยมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอในการรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต