โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา
บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น DNA เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่อีกครั้ง โดยนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทได้เข้ามาซื้อหุ้นจากนายธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ ผู้กองธรรมนัส ในสัดส่วน 8.05% ของทุนจดทะเบียน และก้าวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 มีสัดส่วนถือหุ้นรวม 9.80% ของทุนจดทะเบียน
นายอมฤทธิ์อ้างว่าหุ้นที่ซื้อ เป็นหุ้นที่เคยขายให้นายปริญญา จารวิจิต ผู้ต้องหาคนสำคัญคดีฉ้อโกงนักลงทุนชาวฟินแลนด์ แต่ได้รับชำระค่าหุ้นไม่ครบ ขาดไปกว่า 200 ล้านบาท จึงตัดสินใจซื้อคืน และต้องการถือลงทุนระยะยาว เพราะเห็นว่าผลประกอบการ DNA เริ่มฟื้นตัว
ประเด็นที่น่าสนใจคือ หุ้นที่ซื้อคืนจากนายธรรมนัส เป็นหุ้นในความครอบครองของใครแน่ เพราะนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ คนกลางติดต่อเจรจาซื้อขายหุ้น DNA ระหว่างนักลงทุนชาวฟินแลนด์กับกลุ่มผู้ถือหุ้น DNA เคยระบุว่า นายธรรมนัสเป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทนเท่านั้น
นอกจากนั้น ราคาหุ้น DNA ที่นายอมฤทธิ์ซื้อคืน ตกลงกันที่หุ้นละ 93 สตางค์ ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 50 สตางค์เศษเท่านั้น
ทำไมนายอมฤทธิ์จึงใจป้ำ ยอมซื้อคืนหุ้น DNA ในราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายในกระดานเกือบ 1 เท่าตัว ทั้งที่สามารถทยอยซื้อเก็บในกระดานในราคาที่ต่ำกว่าได้
การซื้อขายถ่ายโอนหุ้น DNA ครั้งใหม่ มีเงื่อนไขหรือข้อตกลงพิเศษที่สาธารณชนไม่รู้หรือไม่
การซื้อหุ้นคืนจากนายธรรมนัสอาจเป็นทางออกที่ดีของ DNA เพราะถ้ายังปรากฏชื่อของนายธรรมนัสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เนื่องจากนายธรรมนัสเป็นผู้กว้างขวาง และมีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีฉ้อโกงนักลงทุนชาวฟินแลนด์
อย่างไรก็ตาม แม้นายธรรมนัสจะพ้นจากฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ DNA แล้ว แต่การจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นกลับไปกลับมา ระหว่างนายอมฤทธิ์ นายปริญญาและนายธรรมนัสยังเป็นปมอยู่ เพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่า อาจเป็นธุรกรรมการซื้อขายหุ้นที่ไม่โปร่งใส และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
DNA ภายใต้การลับมาของนายอมฤทธิ์ ซึ่งกำลังปรับแผนดำเนินงานใหม่ โดยขายธุรกิจที่ไม่สร้างผลกำไร และหันไปหาธุรกิจใหม่ที่สร้างผลตอบแทนดี จนผลประกอบการในครึ่งแรกมีกำไร หลังจากขาดทุนติดต่อกันมาหลายปีนั้น ทำให้บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ดูเหมือนจะมีอนาคตที่ดี
แต่ปมการจำหน่ายถ่ายโอนหุ้นที่มะรุมมะตุ้มในกลุ่มคนที่เกี่ยวพันกับคดีฉ้อโกงนักลงทุนชาวฟินแลนด์ ทำให้การซื้อขายหุ้นระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่มีความลับลมคมใน จนถูกตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมอำพราง โดยนายอมฤทธิ์ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวละคร
อนาคตหุ้น DNA หลังจากสะสางความวุ่นวายในการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นระหว่างผู้ถือหุ้นรายใหญ่อาจจะดีขึ้น ตามที่นายอมฤทธิ์ประกาศไว้ก็ได้ แต่ทำไมนักลงทุนจึงต้องรีบเร่งเข้าไปเก็งกำไร ทำไมไม่รอให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการอย่างเป็นรูปธรรมเสียก่อน
รอให้นายอมฤทธิ์สร้างผลกำไรที่เติบโตอย่างชัดเจน คงไม่สายเกินไปที่จะลงทุนหุนตัวนี้
หุ้นบริษัทจดทะเบียนมีให้เลือกลงทุนเกือบ 800 บริษัท ทำไมจะต้องเลือกลงทุนหุ้นที่ยังมีปมปัญหาเกี่ยวกับธุรกรรมการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่
เว้นวรรคหุ้น DNA ชั่วคราวดีไหม รอให้ผู้บริหารบริษัทสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ก่อนน่าจะดีกว่า