“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” ได้รับเลือกร่วมทุน 45% โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 326 เมกะวัตต์ ในประเทศโอมาน มูลค่าโครงการ 483 ล้านเหรียญฯ
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมทุนในบริษัท Duqm Power Company L.L.C.(DPC) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการ Duqm Independent Power & Water กับกลุ่มบริษัท Oman Oil Company S.A.O.C. (OOC) ซึ่งถือหุ้นโดยรัฐบาลโอมานในสัดส่วน 100% นั้น เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2561 บริษัทฯ ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกลุ่ม บริษัทฯ ได้รับเลือกให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวในสัดส่วน 45%
ทั้งนี้ Duqm Independent Power & Water เป็นโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 326 เมกะวัตต์และมีกำลังการผลิตน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ประเทศโอมาน มูลค่าโครงการ 483 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและน้ำจืดตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและน้ำจืด (PWPA) ให้กับโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ Duqm Refinery and Petrochemical Industrial Company L.L.C. (โรงกลั่นน้ำมัน Duqm) ซึ่งมีกำลังกลั่นน้ำมันดิบประมาณ 2.3 แสนบาร์เรล/วัน และเป็นโครงการที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพลังงานขนาดใหญ่จาก 2 ประเทศ ได้แก่ OOC จากโอมาน 50% และ Kuwait Petroleum International (Q8) จากคูเวตในสัดส่วน 50%
โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีกำหนดทอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 3 ระยะ ตั้งแต่เดือน ก.ค.63 ถึงเดือน พ.ค.65 ตามแผนความต้องการใช้ไฟฟ้าและน้ำจืดของโรงกลั่นน้ำมัน Duqm มีอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นเวลา 25 ปี และขยายอายุสัญญาต่อได้อีก 5 ปี
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามการขยายธุรกิจในต่างประเทศของบริษัท ในวันที่ 6 ก.ย.2561 คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัท Gulf International Holding Pte.Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อม 99.99% เข้าลงนามในสัญญา ได้แก่ สัญญาร่วมทุน กับ Centralised Utilities Company L.L.C. (Marafig) และ Oman Oil Facilities Development Company L.L.C. (OOFDC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OOC โดยทั้ง 3 บริษัทจะร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าของ DPC ในสัดส่วน GIH 45% ,Marafiq 51.1% และ OOFDC 3.9%
ฉบับที่ 2 การทำสัญญาซื้อขายหุ้น OOFDC โดย GIH จะเข้าซื้อหุ้นที่ OOFDC ถืออยู่ใน DPC ในสัดส่วน 45% ในราคาพาร์บวกกับต้นทุนทางการเงิน รวมเป็นราคาซื้อขายประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปัจจุบันกลุ่ม OOC ได้ใช้เงินลงทุนในโครงการไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ บริษัทได้พิจารณาแล้วราคาซื้อขายดังกล่าวตลอดจนอัตราผลตอบแทนของโครงการนั้นมีความสมเหตุสมผล