HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 564 จุด หลังจากที่ผันผวนทั้งสั
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 28 มกราคม 2565 ปิดที่ 34,725.47 จุด เพิ่มขึ้น 564.69 จุด หรือ 1.65% หลังจากที่ผันผวนมาตลอดทั้งสั ปดาห์ จากการปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี รายใหญ่ที่ได้แจ้งผลการดำเนิ นงาน แม้เงินเฟ้อสูงขึ้น
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,431.85 จุด เพิ่มขึ้น 105.34 จุด, +2.43%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,770.57 จุด เพิ่มขึ้น 417.79 จุด, +3.13%
หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้นราว 7% หลั งรายงานยอดขายและกำไรไตรมาสสี่ ดีกว่าคาด ขณะที่หุ้นไมโครซอฟต์ หุ้นแอมะซอน หุ้นเมตาแพลตฟอร์ม หุ้นอัลฟาเบทต่างปิดบวก หลังจากถูกเทขายมาตลอดสัปดาห์
หุ้นเชฟรอนลดลง 3% จากผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลบ 5% แม้กำไรสูงกว่าคาด
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.3%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% จากที่สัปดาห์นี้ผันผวนสูงถึง 2.5% ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย และดัชนี Nasdaq แทบไม่ขยับในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์จาก BMO Wealth Management ระบุว่า การที่ระหว่างวันดัชนีเหวี่ ยงได้สูง บ่งชี้ว่าความท้าทายที่ตลาดกำลั งเจอ ซึ่งก็คือสภาวะการเงินกำลังตึ งตัว เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้า ตลาดก็ตอบสนองมากเกินไป ในทางใดทางหนึ่ง ความผันผวนในลักษณะนี้และการขึ้ นลงที่เหวี่ยงมากจะมีต่อไปอี กระยะหนึ่ง
ดัชนี Cboe Volatility Index ซึ่งเป็นมาตรวัดความผั นผวนของตลาดพุ่งขึ้นไปที่ระดั บสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 ซื้อเคลื่อนไหวที่ระดับเหนือ 30 ในต้นสัปดาห์
นักลงทุนยังคงวิเคราะห์การปรั บนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้ นของธนาคารกลาง (เฟด) หลังจากที่ส่งสัญญานเมื่อวันพุ ธว่า จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้ งแรกในรอบกว่า 3 ปี
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซคส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในสัปดาห์นี้การประชุ มของเฟดรวมทั้งแถลงการณ์ และการให้ความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์มีผลต่อตลาด และวันศุกร์เงินเฟ้อที่สูงขึ้ นก็ยิ่งตอกย้ำถึงการดำเนิ นนโยบายการเงินของเฟดที่จะเข้ มงวดขึ้น
กระทรวงพาณิชย์รายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่ อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลั งงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ เฟดให้ความสำคัญเดือนธันวาคมเพิ่ มขึ้น 4.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ เดือนกันยายน 1983 และเมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวขึ้น 0.5% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3%
ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 5.8% จากระยะเดียวกันของปีก่อน เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนั บตั้งแต่เดือนมิถุนายน 1982 และเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.4%
มหาวิทยาลัยมิชิ แกนรายงานผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริ โภคเดือนมกราคมลดลงมาที่ระดับ 67.2 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2011 และต่ำกว่า 68.5 ที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตั วลดลง นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ที่ลดลง 2.8% นักลงทุนวิตกทิศทางนโยบายการเงิ นของธนาคารกลางหลายประเทศ และเป็นการปิดลบติดต่อกันสั ปดาห์ที่ 4 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดื อนมีนาคม 2020
ฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปนรายงาน GDP ไตรมาส 4 โดย GDP ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.7% ส่งผลให้ทั้งปี 2021 ขยายตัว 7% สูงสุดในรอบ 5 ทศวรรษ จากที่หดตัว 8%
ด้าน GDP เยอรมนีหดตัวมากกว่าคาด โดยติดลบ 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ตลอดทั้งปี GDP ขยายตัว 2.8% ส่วนสเปน GDP ไตรมาสสี่เพิ่มขึ้น 2%
ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจรายเดื อนที่สำรวจโดยคณะกรรมาธิ การสหภาพยุโรปเดื อนมกราคมลดลงมาที่ 112.7
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.55 จุด ลดลง 4.78 จุด, -1.02%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ ที่ 7,466.07 จุด ลดลง 88.24 จุด, -1.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,965.88 จุด ลดลง 57.92 จุด, -0.82%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,318.95 จุด ลดลง 205.32 จุด, -1.32%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 86.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 90.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล