บล.เอเซียพลัส ชู HANA-CPF รับผลดีบาทอ่อน

บล.เอเซียพลัส ชี้ค่าเงินโลกผันผวนป่วนการลงทุน คัด 2 หุ้นเด่น HANA และ CPF ได้ผลดีค่าเงินบาทอ่อน

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส วิเคราะห์สถานการณ์ค่าเงินโลกผันผวน เงินเอเชียอ่อนค่า ซึ่งเป็นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดนอกเหนือจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เนื่องจากมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นโลก

ค่าเงินโลกที่ผันผวนในช่วงนี้ เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เริ่มจากประเทศที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หนี้สาาธารณะสูง และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เช่น เวเนซุเอล่า ค่าเงินโบลิวาร์อ่อนค่ามากสุดของโลกราว 2.4 ล้านเปอร์เซ็น นับจากต้นปีมา, ค่าเงินเปโซของอาร์เจนติน่า อ่อนค่า 109.1% แลค่าเงินลีราของตุรกี อ่อนค่า 76.9%

แต่เมื่อมาดูค่าเงินเอเชียกลับมาอ่อนค่ามากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากทรงตัวหรือแกว่งตัวในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะค่าเงินรูเปียะห์ของอินโดนีเซีย, เปโซของฟิลิปปินส์, รูปีของอินเดียและริงกิต ของมาเลเซีย ยกเว้นเงินบาทของไทย และเงินหยวนของจีนที่ทรงตัว

อย่างไรก็ตาม หากมาดูค่าเงินเอชียโดยรวม นับจากต้นปีมา พบว่าค่าเงินที่อ่อนค่ามากสุด คือ รูปีของอินเดีย 6.85% รองลงมาคือ เปโซของฟิลิปปินส์ 6.71% ตามด้วยรูเปียะห์ของอินโดนีเซีย 5.71%, หยวนของจีน 2.42% และเงินบาทของไทย 2.07%


ในภาวะที่เงินบาทอ่อนค่าแบบนี้ ประกอบกับเข้าสู่ high season ของการส่งออก หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์มากสุดก็คือกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอกนิกส์และกลุ่มส่งออกอาหาร สำหรับหุ้นใน 2 กลุ่มนี้ ฝ่ายวิจัย ASP คัดหุ้นเด่นมาให้ 2 ตัว คือ HANA และ CPF

สำหรับ HANA ฝ่ายวิจัยฯ ปรับ Fair Value ขึ้นเป็น 44 บาท จาก 38.50 บาท โดยเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2562 ขึ้น 0.4% และ 15.0% จากเดิม ผลจาก Gross Margin ที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 รวมทั้งประเมินรายได้จะเพิ่มขึ้นจากเซ็นเซอร์กลุ่มสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนที่ดีกว่าคาด และจะเพิ่มมากขึ้นในครึ่งปีหลัง

ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงสมมติฐานผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน โดยได้ตัดลดยอดขายรวมของ HANA ลงจากเดิม 3% เนื่องจาก HANA มีโครงสร้างรายได้จากฐานการผลิตในจีน 22% และมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ราว 13% ของรายได้รวม ราคาหุ้นปัจจุบันมี upside 10% แนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว”

ส่วน CPF นอกจากได้ปัจจัยหนุนจากเงินบาทอ่อนค่าแล้ว ยังได้ประโยชน์จากราคาสุกรที่อยู่ระดับสูง CPF มีรายได้จากธุรกิจสุกรในไทย 14% และรายได้จากธุรกิจสุกรในเวียดนาม 7% ของรายได้รวม แนวโน้มธุรกิจจะทยอยฟื้นตัวครึ่งปีหลัง จากปัญหาสุกรล้นตลาดคลี่คลายลง และยังพบโรคไข้อหิวาต์อัฟริการะบาดในจีน ทำให้จีนทำลายสุกรไปแล้วมากกว่า 3.5 หมื่นตัว จึงน่าจะเห็นจีนนำเข้าสุกรจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

จีนยังจะลดการนำเข้าสุกรจากสหรัฐฯ หลังถูกขึ้นภาษีนำเข้า 25% ส่งผลบวกต่อการค้าขายสุกรชายแดนเวียดนามและไทยคึกคักขึน้ และบวกทางอ้อมต่อราคาสุกรในไทยและเวียดนาม หนุนผลประกอบการ CPF ให้ราคาเหมาะสม 30 บาท มี upside 14.3%