HoonSmart.com>> “ซีวิลเอนจีเนียริง” ผู้รับเหมาโครงการวิศวกรรมและก่อสร้าง พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เดีเดย์ 27 ม.ค.นี้ ขาย IPO หุ้นละ 4.60 บาท มูลค่าหลักทรัพย์กว่า 3,220 ล้านบาท
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CIVIL” ในวันที่ 27 ม.ค.2565
CIVIL ประกอบธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการในแนวราบ 2) ธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างประเภทอื่นๆ เพื่อสนับสนุนงานก่อสร้างของกลุ่มบริษัท 3) ธุรกิจให้เช่าอาคารและเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง โดยบริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาอย่างยาวนาน และมีความชำนาญในงานโครงการแนวราบ ได้แก่ งานทาง ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ กลุ่มลูกค้าหลักได้แก่หน่วยงานรัฐและภาคเอกชนที่มีศักยภาพ โดย ณ 30 พ.ย.2564 บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างส่งมอบ 16,813 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2567
CIVIL มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 700 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 19 – 21 ม.ค.2565 ในราคาหุ้นละ 4.6 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 920 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,220 ล้านบาท
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 16.8 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ไตรมาส 4 ของปี 2563 – ไตรมาส 3 ของปี 2564) เท่ากับ 191.62 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.27 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ CIVIL จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของบริษัท และเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน โดยบริษัทฯ มีแผนจะขยายการรับงานของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นเพื่อกระจายโครงสร้างรายได้เพิ่มเติมจากงานภาครัฐ โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในโครงการ นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
CIVIL มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และการจ่ายเงินปันผลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท อัศวศิริสุข โฮลดิ้ง ถือหุ้นรวม 64.29% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว