HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นแกว่งตัวแคบ ปิดภาคเช้าที่ 1,675.32 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด แกว่งแคบหลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน ประกอบกับรอดูงบฯกลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมา โดยกลุ่มพลังงานยังหนุนตลาดหลังราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่อง แต่ได้รับแรงกดดันจากกลุ่มแบงก์ที่อ่อนลงตามกลุ่มการเงินในตลาดสหรัฐ แนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 1,660-1,680 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 17 ม.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,675.32 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด หรือ +0.16% มูลค่าการซื้อขาย 43,638.64 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,679.91 จุด และต่ำสุด 1,672.93 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งตอนนี้ก็โฟกัสไปที่งบฯของกลุ่มแบงก์ก่อน โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากลุ่มแบงก์กำไรเมื่อเทียบ QoQ จะฟื้นตัวได้ไม่มาก แต่หากเทียบ YoY จะเติบโตได้ราว 20% เนื่องจากไตรมาส 4/63 ฐานต่ำมาก
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นมาตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เช้านี้ตลาดฯได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่อ่อนตัวลงตามกลุ่มการเงินในตลาดสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด พร้อมให้โฟกัสไปที่การประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ และช่วงปลายสัปดาห์นี้ก็ให้ติดตามตัวเลขส่งออกของไทย
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
TKC ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือ +50% มูลค่าซื้อขาย 2,305.01 ล้านบาท
GULF ปิดที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +2.99% มูลค่าซื้อขาย 1,970.58 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ +2.89% มูลค่าซื้อขาย 1,662.28 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.03% มูลค่าซื้อขาย 1,530.12 ล้านบาท
GPSC ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.17% มูลค่าซื้อขาย 1,103.74 ล้านบาท