HoonSmart.com>>”เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส” เข้าตลาดหุ้น เพิ่มศักยภาพในการประมูลงานเมกะเทรนด์ที่ออกมามากอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและเอกชน หนุนกำไรโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 10-15% ยันรักษาอัตรากำไรสุทธิสูง ปี 65 ทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) สัดส่วน 80% ของงานทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านบาท
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) เปิดเผยว่า บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มศักยภาพในการเข้าประมูลงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะได้งานสัดส่วน 40-60% ของมูลค่าที่เข้าประมูล จากที่ผ่านมาเข้าประมูลปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท ประกอบกับมีงานไอทีจากภาครัฐและเอกชนที่ยังออกมาจำนวนมาก เช่น โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ ระบบ Smart Solutions และงานด้าน Cyber Security
ส่วนงานที่เป็นเมกะเทรนด์ที่เกี่ยวกับ 5G ระบบ Smart Logistics และระบบ Cyber Security ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบ Cloud แบบ Hybrid อุปกรณ์โดรนที่เกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์มมิ่ง โดรนที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ เป็นงานที่บริษัทจะเข้าไปรับเข้ามามากขึ้น เพื่อสร้างเสริมศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำในการเป็นผู้รับเหมางานด้านโครงสร้างในระบบไอทีที่เป็นเมกะเทรนด์ภายใน 2-3 ปี
นอกจากนี้ งานของบริษัทที่ได้งานมานั้นยังสามารถต่อยอดงานด้านบริการที่จะสร้างรายได้เข้ามาเพิ่มเติม ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มาจากงานโครงการมากกว่า 64% รายได้จากงานบริการและบำรุงรักษากว่า 35% ส่วนที่เหลือมาจากรายได้จากงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่าย
“ในช่วง 3 ปีนี้ กำไรมีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด เพราะมาจากฐานที่ต่ำ หลังจากนั้นแนวโน้มจะเติบโตได้ปีละ 10-15% โดยพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ระดะเดิม และ D/E อยู่ที่ 0.8% หลังเข้าตลาด และในปี 2565 จะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) สัดส่วน 80% ของงานทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านบาท” นายสยาม กล่าว
ส่วนการนำหุ้น TKC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก (17ม.ค.65) ถือว่านักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อธุรกิจของ TKC ที่เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามเทรนด์ของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง และมีบทบาทมากขึ้นในการทำธุรกิจ รวมถึงการผลักดันด้านเทคโนโลยีของภาครัฐ ทำให้ภาครัฐและเอกชนมีการผลักดันงานใหม่ๆออกมาต่อเนื่อง ซึ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัท
ด้าน นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นกล่าวว่า TKC กระจายหุ้นให้ประชาชนค่อนข้างน้อย เพียง 78 ล้านหุ้น ขณะที่มีความต้องการสูงมาก บริษัทมีความพยายามกระจายหุ้นให้ถึงมือนักลงทุนมากที่สุด ลงไปถึงรายละ 1,000 หุ้นจำนวนหลายร้อยคน คาดว่าจะเข้ามาซื้อในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติม ด้วยเหตุผล บริษัทมั่นคง มีกำไรมาก เชื่อว่าจะมีนักลทุนเข้ามาซื้อทั้งที่เป็นกองทุน และ
high net worth
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ TKC กล่าวว่า การตอบรับของ TKC มีจุดแข็งและกลยุทธ์ในความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 18 ปี ที่บริษัทมุ่งมั่นพัฒนา ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นธุรกิจหลักที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์การทำงานด้านรับเหมาการสื่อสารและโทรคมนาคม ทำให้เข้าใจอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอนาคต มีระบบการควบคุมบริหารจัดการแต่ละส่วนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทยังมีความได้เปรียบจากการเป็นผู้รับเหมามาก่อน ทำให้บริหารต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง และการมีทีมวิศวกรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ทั้งในแง่ความสามารถในการบริการและราคา รวมถึงมีการดูแลและการให้บริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ไว้ใจและใช้บริการต่อเนื่อง
อ่านข่าว
TKC สุดร้อนแรงตั้งแต่วันแรก – บิ๊ก III -กองทุน-วีไอ แห่บิ๊กล็อต