HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นอ่อนตัวลง ปิดภาคเช้าที่ 1,678.16 จุด ลดลง 1.86 จุด หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยในมี.ค.นี้ ฉุดสภาพคล่องลดลง กดดันสินทรัพย์เสี่ยง ทิ้งหุ้น Growth Stock และกลุ่มเทคโนโลยี แต่ตลาดหุ้นยังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค รับแรงประคองจากกลุ่ม ICT และกลุ่มโรงไฟฟ้า แนวโน้มบ่ายนี้คาดตลาดผันผวนในแดนลบ กรอบแนวรับ 1,670-1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,685 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 14 ม.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,678.16 จุด ลดลง 1.86 จุด หรือ -0.11% มูลค่าการซื้อขาย 49,081.84 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,678.78 จุด และต่ำสุด 1,670.70 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วในเดือนมี.ค.นี้ หลังจากที่ประธานเฟดสาขาต่าง ๆ ออกมาพูดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้กันค่อนข้างมาก ทำให้นักลงทุนต่างถอยออกมาก่อน โดยมีการทิ้งหุ้นพวก Growth Stock รวมถึงหุ้นใน่กลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลง อย่างหุ้น HANA และ KCE ที่ปรับตัวลงได้รับแรงกดดันจากดัชนี Nasdaq ที่ร่วงไปกว่า 2% ด้วย พร้อมให้กรอบการแกว่งวันนี้มีแนวรับ 1,665 จุด แนวต้าน 1,685 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่ง Sideway Down แต่ยังดูแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับฐานกันราว 0.8-1% หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายสาขาต่างออกมาพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงเดือนมี.ค.นี้ ส่งผลให้สภาพคล่องลดลง ไปกดดันสินทรัพย์เสี่ยง
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นได้รับแรงประคองจากหุ้นในกลุ่ม ICT และกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่างหุ้น ADVANC, TRUE, GULF, GPSC เป็นต้น ทำให้ตลาดฯปรับตัวลงไม่มาก พร้อมให้รอติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในการประชุมเฟดวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย ตลาดฯคงจะยังผันผวนในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,670-1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,685 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
GULF ปิดที่ 50.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ +3.57% มูลค่าซื้อขาย 2,522.86 ล้านบาท
SCGP ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -2.68% มูลค่าซื้อขาย 1,512.92 ล้านบาท
GUNKUL ปิดที่ 5.85 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -1.68% มูลค่าซื้อขาย 1,043.23 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.34% มูลค่าซื้อขาย 1,042.04 ล้านบาท
EA ปิดที่ 95.00 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.30% มูลค่าซื้อขาย 974.39ล้านบาท