HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสนอคลังเก็บอัตราภาษีขายหุ้นในอัตราที่เหมาะสม หวั่นกระทบต้นทุนนักลงทุนเพิ่ม เสี่ยงปริมาณการซื้อขายลดลง ความสามารถแข่งขันตลาดทุนไทยลดลง
กระทรวงการคลังยืนยันกลับมาเก็บภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital gains tax) ในอัตรา 0.1% สำหรับนักลงทุนที่มีมูลค่าซื้อขายเกิน 1 ล้านบาท/เดือน ในปี 2565 โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังยกเว้นภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงยกเว้นกำไรจากการขายหุ้นหรือ Capital gains tax ในอัตรา 0.1% มาตั้งแต่ 2534 หากภาครัฐต้องการขยายฐานภาษี การพิจารณากลับมาเก็บภาษีชนิดนี้ก็เป็นหนึ่งในช่องทางที่เป็นไปได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)กล่าวว่า ทาง ตลท.มองว่าภาครัฐมีความจำเป็นที่ต้องนำเม็ดเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งภาษีดังกล่าวที่ถูกยกเว้นมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ทาง ตลท. ได้นำเสนอข้ออมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์อัตราการเก็บภาษีให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว รวมถึงนำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาอัตราการเก็บภาษีให้เหมาะสมกับนักลงทุน
“การเก็บภาษีดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนของนักลงทุนเพิ่มขึ้น กระทบต่อกลุ่มนักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น อาจจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายลดลง เนื่องจากต้องรอให้ราคาหลักทรัพย์คลื่อนไหวมากกว่าเดิมถึงจะมีการซื้อขายเกิดขึ้น”นายภากรกล่าว
ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายของตลาดเฉลี่ยต่อวันประมาณ 90,000 ล้านบาท ถ้ามีการเก็บภาษีในอัตราที่เหมาะสม ก็จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยแตกต่างจากตลาดทุนอื่นๆ
นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ อยากให้กระทรวงการคลังพิจารณา 2 เรื่อง ได้แก่ 1.จำนวนรายการที่จะเริ่มมีการเก็บภาษี ซึ่งจะเป็นการเก็บภาษีในลักษณะไหน ขึ้นกับการขายหรืออย่างไร 2.อัตราการเก็บภาษีสอดคล้องกับความสามารถในการจ่ายของนักลงทุนอย่างไรบ้าง