HoonSmart.com>> “เอเอ็มอาร์ เอเซีย” คาดรายได้ปี 65 โต 40% จากปีนี้คาดทำได้ 1.6-1.7 พันล้านบาท หวังงานใหม่ 3-4 พันล้านบาท ตั้งงบลงทุนไว้ 1-2 พันล้านบาท ลุยธุรกิจพลังงานทดแทน จ่อปิดดีลร่วมมือบจ. ไตรมาส 1 ดันรายได้ประจำแตะ 20% ภายในปี 66 ส่วนช่วงสุดท้ายของปีนี้ เตรียมเซ็นงานใหม่อีก 600-700 ล้านบาท เพิ่ม Backlog แตะระดับ 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าคุมอัตรากำไรขั้นต้น 25-26% อัตรากำไรสุทธิที่ 10%
นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2565 จะเติบโตขึ้นประมาณ 40% อยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท จากปี 2564 คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1,600-1,700 ล้านบาท โดยจะยื่นประมูลงานใหม่ประมาณ 52,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีงานประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มเติมด้วย มูลค่ารวมประมาณ 100,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่างานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท
บริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนไปยังธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ได้แก่ 1.ธุรกิจงานซ่อมบำรุง ที่มีสัญญาระยะยาวเพิ่มขึ้น 2.ธุรกิจบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายรอง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา เพื่อเตรียมเข้าร่วมลงทุน และ3.ธุรกิจพลังงานทางเลือก คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน กับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/2565 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ 5-7%
นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มทำธุรกิจขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งต่างประเทศเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทดแทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนจก โดยบริษัทมองว่าการลงทุนทั้งการทำ Solar Plant และ Solar Rooftop ตามโรงงาน หรือโรงแรม ที่สนใจ เพื่อสร้างรายได้จากขายไฟฟ้า และเป็นการลดค่าไฟฟ้าด้วย อีกทั้งยังได้คาร์บอนเครดิตด้วย
สำหรับเงินลงทุนในปี 2565 บริษัทตั้งงบไว้ที่ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายรอง และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ โดยปัจจุบันบริษัทมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วน D/E Ratio อยู่ที่ 0.64 เท่า และมี IBD/E Ratio อยู่ที่ 0.05 เท่า
แนวโน้มผลงานช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 บริษัทคาดว่ามูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,200-1,300 ล้านบาท ซึ่งมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาประมาณ 600-700 ล้านบาท รวมถึงบริษัทมีแผนจะเข้าไปประมูลงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คิดเป็นมูลค่างานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท จากมูลค่ารวมประมาณ 50,000 ล้านบาท
ส่วนความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ บริษัทสร้างสถานีชาร์จแบตเตอรี่จักรยานยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะเริ่มวางรากฐานในประเทศไทยก่อน และมองหาการเติบโตในต่างประเทศต่อ เบื้องต้นมองว่าที่ประเทศเวียดนาม และกัมพูชา มีผู้ใช้จักรยานยนต์ค่อนข้างมาก
“รายได้ปีนี้ที่เห็นว่าอาจจะลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากการรับรู้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่อยู่ในช่วงท้ายโครงการ ทำให้รับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานลดลง ซึ่งในปี 2565 บริษัทพยายามจะสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้น รวมถึงกำไรสุทธิ แต่ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาเหล็ก พลังงานต่างๆ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง รวมถึงการแข่งขันในด้านราคาด้วย บริษัทจะพยายามควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ 25-26% และ 10% ตามลำดับ ” นายมารุต กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” AMR ให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 9.76 บาท คิดเป็น P/E ที่ 26 เท่า เทียบกับผู้ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันในต่างประเทศ ค่า P/E อยู่ที่ 32 เท่า โดยราคาหุ้นยังไม่รวม Upside จากแผนการใช้เงินระดมทุน ที่นำมาต่อยอดธุรกิจ