โรงไฟฟ้าเบ่งความใหญ่ กัลฟ์ฯเนื้อหอมมีมาเสนอขายวันละ 10 ดีล วินด์ฯยังคุยกันอยู่ ส่วน BGRIM คาดดีลต่างประเทศจบ สิ้นปีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2,091 เมกะวัตต์ รายได้โตมากกว่า 20% GPSC คาดเทคโอเวอร์ GLOW เสร็จ เพิ่มเป็น 4,835 เมกะวัตต์
กัลฟ์ฯหวัง COD ทะลุเป้า 11,000 เมกะวัตต์
นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)เปิดเผยว่า บริษัทฯมีโอกาสที่จะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ( COD)ได้มากกว่าเป้าหมาย 11,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 เพราะขณะนี้มีบริษัททั้งไทยและต่างประเทศมาเสนอให้เลือกลงทุนโรงไฟฟ้าประมาณ 10 โครงการ / วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาเสนอให้พิจารณาวันละ 2-3 เท่า รวมถึง บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง หรือ WEH ด้วย เพื่อที่จะต่อยอดธุรกิจพลังงานลม
“ตอนนี้บริษัท COD แล้วกว่า 4,000 เมกะวัตต์ (MW) ส่วนที่เราตั้งเป้าไว้ 11,000 เมกะวัตต์ ได้แน่ๆ เพราะเรามีใบอนุญาตแล้ว ถ้าคุยกับรายที่เสนอเข้ามาสำเร็จ ส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนเพิ่ม ซึ่งเราต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ เรื่องสำคัญ คือ อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)” นางพรทิพา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะลงทุนโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติม โดยเฉพาะในแถบ CLMV จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม เป็นโซลาร์ฟาร์ม 2 โรง มีกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ และ 40 เมกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานลม 1 โรง กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์
ส่วนโรงไฟฟ้าของบริษัทย่อยคือ บริษัท กัลฟ์ พีดี จำนวน 2 โรง มีกำลังการผลิตโรงละ 2,500 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการ โรงแรกตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ ใช้งบลงทุนหลักหมื่นล้านบาท สัดส่วนเงินกู้ 3 ต่อ 1 คาดจะสามารถเริ่ม COD ได้ในปี 2564 ส่วนโรงที่2 ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดชลบุรี จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2563 ทั้งนี้บริษัทฯเซ็นสัญญาซื้อน้ำอุตสาหกรรมจากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW)มาผลิต ช่วยลดต้นทุนลง ทำให้ได้ IRR เพิ่มเป็น 25-28%
นางพรทิพกล่าวถึงการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศโอมาน กำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ ว่า เป็นการลงทุนร่วมกันกับบริษัท โอมาน ออยล์ โดยบริษัทฯถือหุ้น 40-45% คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือนส.ค.นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะมีโอกาสได้งานสูง
BGRIM ลั่นรายได้ทะลุเป้า ดีลตปท.จบสิ้นปี
ทางด้านบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นมากกว่า 2,091 MW จากช่วงไตรมาส 2 ที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1,912 MW และเพิ่มจากช่วงต้นปีที่มีกำลังผลิตไฟฟ้า 1,779 MW เนื่องจากการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศกำลังการผลิตหลายร้อยเมกะวัตต์ คาดว่าจะปิดดีลได้ภายในปีนี้ รวมถึงโรงไฟฟ้าใหม่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผน ทำให้บริษัทเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 3.19 หมื่นล้านบาท
ในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า ABPR5 กำลังผลิต 133 MW , โครงการไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์ของส่วนราชการ (Solar 2017) กำลังผลิต 31 MW และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำแจ” กำลังผลิต 15 MW นอกจากนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าบี.กริม ยันฮี โซล่าร์ พาวเวอร์ กำลังการผลิต 57 MW หลังจากเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็น 100%
สำหรับปีหน้าจะมีโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบอีก 848 MW ได้แก่ โรงไฟฟ้า ABP1 Extension กำลังผลิต 166 MW , Interchem กำลังผลิต 5 MW และโรงไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์ที่เวียดนาม 2 โครงการ ซึ่งจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในวันที่ 30 มิ.ย.2562 แบ่งเป็นโครงการแรก กำลังการผลิต 420 MW และโครงการที่สอง กำลังการผลิต 257 MW นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซในเวียดนาม กำลังการผลิตหลายร้อนเมกะวัตต์เช่นกัน
ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เกาหลีใต้กับทาง KEPCO กำลังการผลิต 100 MW คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า
สำหรับความคืบหน้าการย้ายโรงไฟฟ้า BGPR1 และ BGPR2 กำลังการผลิต 240 MW นั้น ได้มีการเซ็นเอ็มโอยูกับนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มสิงห์ที่จ.อ่างทองไปแล้ว มั่นใจว่าจะก่อสร้างและจ่ายไฟฟ้าได้ทันตามกำหนดในช่วงกลางปี 2564 แน่นอน
นางปรียนาถ กล่าวว่า ในส่วนการต่อสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับโรงไฟฟ้า SPP ที่จะสิ้นสุดสัญญา ในช่วงปี 2560-2568 นั้น ทาง BGRIM ยอมรับได้ทั้งสองแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุสัญญา 25 ปี หรือการต่อสัญญา 10 ปี ทำให้บริษัทลงทุนเพิ่มเพียง 300-400 ล้านบาท เนื่องจากหากบริษัทไม่ขายไฟฟ้าให้กฟผ.ก็สามารถขายไฟฟ้าให้ลูกค้าเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมได้ โดยทราบว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งหน้าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้
นางปรียนาถ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ BGRIM มีแผนออกหุ้นกู้สำหรับรีไฟแนนซ์หนี้เดิม และใช้สำหรับการลงทุนใหม่ประมาณ 1-1.4 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดในมือกว่า 1 หมื่นล้านบาท
GPSC ซื้อ GLOW เสร็จสิ้นปี 4,835 เมกะวัตต์
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 24 ส.ค. 2561 ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ซื้อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW)ด้วยคะแนน 99.98% ของเสียงทั้งหมด และอนุมัติการออกหุ้นกู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศในวงเงินรวมไม่เกิน 68,500 ล้านบาท
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC คาดว่าการซื้อหุ้น GLOW จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยมีแนวคิดที่จะนำหุ้น GLOW ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้การทำงานมีการ Synergy ระหว่างกันมากขึ้น
สำหรับ GPSC มีแผนจะซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมด ภายใต้วงเงินรวมประมาณ 1.39 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าภายหลังการควบรวมกิจการเพิ่มเป็น 4,835 เมกะวัตต์