HoonSmart.com>> “การบินกรุงเทพ” รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 64 คาดรายได้ต่ำกว่าปีก่อน มีลุ้นครึ่งปีหลังฟื้น เตรียมแผนรองรับเปิดเส้นทางการบินใหม่อีก 17 เส้นทาง ทั้งใน-ต่างประเทศ เดินหน้าลดต้นทุนต่อเนื่อง ลดจำนวนเครื่องบินเหลือ 36 ลำ จากเดิม 39 ลำ ปี 65 เหลือ 30 ลำ ยันยังไม่เพิ่มทุน ขอสินเชื่อสถาบันการเงินอยู่ 3-4 แห่ง ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา คาดเริ่มนับหนึ่งสัญญาได้ช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2564 จะลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 10,022.51 ล้านบาท จากจำนวนเที่ยวบินจำนวน 13,678 เที่ยว ลดลง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จำนวนผู้โดยสารลดลง 52% มาอยู่ที่ 9 แสนคน เนื่องจากในไตรมาส 1 และ 2 ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แพร่ระบาด
บริษัทมองว่านักท่องเที่ยวจากทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรป ที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมจำนวนประชากรค่อนข้างมาก ทำให้เกิดลักษณะภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะเริ่มท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ถ้าหากภาครัฐมีการเปิดประเทศ มีการกระจายวัคซีนในประเทศที่ดีขึ้น และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ก็จะส่งผลดีต่อบริษัท โดยมีแผนเปิดเส้นทางการบินในประเทศเพิ่ม 14 เส้นทาง และต่างประเทศอีก 3 เส้นทาง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป จากเดือน พ.ค. 2564 ที่เหลือเพียง 4 เส้นทาง
ส่วนโครงการเมืองท่องเที่ยวนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 บริษัทมองว่าถ้ามีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม และโครงการมีประสิทธิ เมืองท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงสมุยที่บริษัทดูแลอยู่ อาจจะได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันบริษัทยังคงกลยุทธ์ลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะลดจำนวนเครื่องบินลง จากปัจจุบันมี 39 ลำ ซึ่งสิ้นปี 2564 คาดว่าจะเหลือ 36 ลำ จากการหมดสัญญาเช่า 1 ลำ และอยู่ระหว่างการเจรจาขายเครื่องบินอีก 2 ลำ ส่วนปี 2565 คาดว่าจะเหลือทั้งหมด 30 ลำ โดยจะส่งมอบเครื่องที่จะหมดสัญญาเช่าอีก 6 ลำ
นอกจากนี้ยังคงลดการลงทุนโครงการใหญ่ๆ มีเพียงการลงทุนเรื่องการซ่อมบำรุงต่างๆ เพื่อความปลอดภัย และลงทุนด้านการบริการ นอกจากนี้บริษัทยังขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ รวมถึงขอวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินประมาณ 3-4 แห่ง เพื่อให้บริษัทสามารถรักษาสภาพคล่องได้ โดยที่ไม่มีการเพิ่มทุน
ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น ที่บริษัทฯถือหุ้นร่วมกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอด์คอนสตรัคชั่น (STEC) คาดว่าสัญญาสัมปทาน 50 ปี จะเริ่มนับหนึ่งในช่วงปลายปี 2564 นี้ หรือต้นปี 2565 โดยบริษัทฯและ BTS จะร่วมกันพัฒนาแผนธุรกิจการบิน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่างๆ ส่วน STEC จะทำหน้าที่ดูงานก่อสร้าง ควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆในการก่อสร้าง
