HoonSmart.com>>”โซนิค อินเตอร์เฟรท” มั่นใจปีนี้โต 20% สบาย ปัจจัยหนุนเพียบ ปรับโมเดลธุรกิจขนส่งทางบก บุกลิสซิ่ง คาดปล่อยสินเชื่อซื้อรถบรรทุก 200 ล้านบาท ปีหน้าไปต่อ เพิ่มจำนวนรถให้บริการลูกค้า ดีลซื้อกิจการคาดสรุปปีนี้ หนุนให้โตก้าวกระโดด ฐานะการเงินแข็งแรง
ดร. สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้ เป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ในช่วง 3 เดือนปริมาณงานมากที่สุดนับตั้งแต่บริษัทบริหารงานมาก เงินบาทอ่อนค่าหนุนส่งออก คาดว่าปีนี้โต 6% และบริษัทเพิ่งมีการขยายธุรกิจขนส่งทางบกไปเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก และมีแผนขยายเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า
ในปี 2564 บริษัทมีแผนขยายโมเดลธุรกิจเพิ่มเติม ปัจจุบันมีรถบรรทุกให้บริการจำนวน 145-150 คัน ส่วนใหญ่เป็นของบริษัท ต่อไปจะไม่ลงทุนเอง หันมาสนับสนุนพันธมิตร โดยการปล่อยลิสซิ่งให้เจ้าของซื้อรถ ให้บริการรับช่วงต่อ คาดว่าสามารถขยายได้มากถึง 400-500 คัน ในปีนี้ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อที่ 200 ล้านบาท ตอนนี้ปล่อยได้ 150 ล้านบาท ปีหน้าคาดไว้ที่ 200 ล้านบาทเช่นเดียวกัน จากปีที่ผ่านมาปล่อยลิสซิ่ง 30 ล้านบาทเท่านั้น
“บริษัทจัดลิสซิ่งให้มาวิ่งรถร่วมกับเรา แค่จับตรวจให้ได้มาตรฐานของลูกค้า เรามีโอกาสขยายธุรกิจได้มาก ด้วยเงื่อนไขที่ตอบโจทย์พันธมิตร เชื่อว่าได้รับความสนใจ เพราะให้เวลากู้ยาวถึง 6 ปี อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ขณะที่ตลาดให้เวลาผ่อน 5 ปี กลุ่มเป้าหมายให้กับเจ้าของรถที่มีธุรกิจไม่ใหญ่มาก เพื่อให้ทุกคนโตไปด้วยกัน การให้บริการสินเชื่อมีความเสี่ยงน้อย เพราะรู้จักคนที่วิ่งรถเป็นอย่างดี และควบคุมได้ “ดร. สันติสุขกล่าว
ส่วนการเจรจาซื้อกิจการ ปัจจุบันยังติดปัญหาการเดินทางในช่วงโควิด คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ มีทั้งบริษัทในฮ่องกง สิงคโปร์ เวีดนาม จีนที่มีธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตมาก
สำหรับปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ปัจจุบันก็ยังมีปัญหา ทำให้อัตราค่าระวางเพิ่มขึ้น แต่บริษัทไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากผลักต้นทุนให้กับลูกค้าได้ คาดว่าสถานการณ์นี้จะต่อเนื่องถึงไตรมาส 3
ด้านน.ส.กนกวรรณ พิฤทธิ์บูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัทโซนิค อินเตอร์เฟรท กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทเติบโตได้ดีมาก กำไรนิวไฮ และฐานะการเงินแข็งแรง สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ต่ำเพียง 0.59 เท่า ดีกว่าอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีเงินสดกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ ROE ก็ดีขึ้น เป็น 9.57% และ ROA 8.86%
