HoonSmart.com>> “ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” ประเมินความต้องการใช้ยางพาราธรรมชาติทั่วโลกในปี 64 ฟื้นตัวแข็งแกร่งแตะ 13.4 ล้านตัน เติบโต 7% หนุนภาพรวมอุตสาหกรรมและราคายางธรรมชาติเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ เศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนกลับมาเติบโตและดีมานด์จากอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยาง หนุนราคายางแท่งในเดือนก.พ.พุ่งสูงสุดรอบ 4 ปี คาดปริมาณการขายยางพาราบริษัทฯ ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16% พร้อมรุกขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้น
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติครบวงจรอันดับ 1 ของโลก เปิดเผยว่า จากการประเมินภาพรวมความต้องการใช้ยางธรรมชาติ (Natural Rubber) ในปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และกำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ โดยประเมินแนวโน้มความต้องการใช้ยางพาราธรรมชาติทั่วโลกอยู่ที่ 13.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับปี 2563 ที่คาดว่ามีความต้องการใช้ทั่วโลกรวม 12.5 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 และคาดการณ์ว่าจะเห็นภาพรวมความต้องการใช้ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เริ่มคลี่คลาย
ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ราคายางแท่งในเดือนก.พ.2564 เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับกว่า 160 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เทียบกับราคาเฉลี่ยทั้งปี 2563 อยู่ที่ 131 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22%
“ปัจจัยที่ราคายางพาราธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นนั้น เกิดจากภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจีนที่กลับมาเติบโตได้ดี โดยจีนเป็นหนึ่งในประเทศผู้บริโภคยางพารารายใหญ่ของโลก ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ยางเพื่อการผลิตยางล้อในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงได้รับผลดีจากความต้องการใช้ยางพาราธรรมชาติ ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยาง หลังเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
กรรมการบริหาร STA กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 คาดว่าจะมีปริมาณการขายยางพาราธรรมชาติทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านตัน หรือเฉลี่ยไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 16% จากปี 2563 ที่มีปริมาณการขายยางพาราธรรมชาติ 1.03 ล้านตัน โดยสถานการณ์ในช่วง 1-2 เดือนแรกที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่ดี
ขณะที่สถานการณ์ราคายางพาราธรรมชาติไตรมาส 1/2564 ยังอยู่ในระดับที่ดี คาดว่าราคาเฉลี่ยยางแท่งจะเพิ่มขึ้น 5-10% จากไตรมาส 4/2563 ที่มีราคาเฉลี่ย 148 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้ยางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงคาดว่าจะเห็นดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
ล่าสุด บริษัทฯ จึงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้น (Concentrated Latex) อีกกว่า 1.1 แสนตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากกำลังการผลิต ณ สิ้นปี 2563 ได้แก่ การขยายกำลังกำลังการผลิตโรงงานจังหวัดบึงกาฬ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2565 ไตรมาส 3/2565 และไตรมาส 1/2566 ตามลำดับ เพื่อตอบสนองดีมานด์จากอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางที่เพิ่มมากขึ้น