HoonSmart.com>>หุ้นที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาร่วงแรง ตื่นกระแสข่าวรัฐประหาร ปตท.สผ.ถลาลงไปต่ำสุด 101 บาทก่อนเด้งกลับ บล.ทรีนีตี้ยังคงแนะนำซื้อ ประเมินการลงทุนใน 3 แหล่ง สร้างรายได้ 12% มีความเสี่ยงเพียง 5-10 บาทต่อหุ้น ส่วน TTCL มองความเสี่ยงจำกัด เพิ่งได้ใบอนุญาตขายไฟ 388 MW บลจ.พรินซิเพิลคาดกระทบบจ.ไม่มาก
วันที่ 1 ก.พ. 2564 หุ้นของบริษัทที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาปรับตัวลงแรงจากประเด็นความกังวลการเกิดรัฐประหาร ส่งผลให้ PTTEP ราคาทรุดลงไปต่ำสุด 101 บาท และ TTCL แตะ 5 บาท ลดลง 0.95 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น PTTEP เด้งกลับขึ้นไปสูงสุดบริเวณ 105 บาท ก่อนเคลื่อนไหว 104.50 บาทบวก 1 บาท หรือ 0.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาตา 778 ล้านบาท ส่วน TTCL ฟื้นขึ้นมา แต่ยังคงลดลง 0.65 บาทหรือ 10.92% ซื้อขายที่ 5.30 บาท ณ เวลา 12.02 น.
บล.ทรีนีตี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” PTTEP ให้ราคาเป้าหมาย 119 บาท/หุ้น หลังจากชาติตะวันตกหวั่นเกิดรัฐประหารในเมียนมา ซึ่งอาจผลเชิงลบต่อ PTTEP เนื่องจากมีการลงทุนแหล่งในพม่า 3 แหล่งคือ ซอติก้า, ยาดานา และเยตากุน มีรายได้ประมาณ 12% จากเมียนมา (ก๊าซทั้งหมดขายกลับมาที่ประเทศไทย) ซึ่งถ้าสถานการณ์การเมืองในเมียนมามีความไม่สงบอาจจะมีผลต่อการดำเนินงานได้
ในกรณีเลวร้ายสุดถ้าไม่สามารถดำเนินการต่อได้อาจจะกระทบต่อ ราคาเป้าหมายเรา 5-10 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ
ด้าน TTCL เห็นว่าบริษัทมีความเสี่ยงจำกัด เนื่องจากบริษัทเพิ่งได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้า Ahlone เฟส 2 ในเมียนมา กำลังการผลิต 388 เมกะวัตต์มาแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยลงนามกับกระทรวงไฟฟ้าของเมียนมา
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมาเบื้องต้นไม่น่าจะกระทบมาก เนื่องจากหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับเมียนมามีไม่กี่บริษัท ประกอบกับการค้าระหว่างไทยกับเมียนมาก็ไม่มาก อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป เพราะเพิ่งเกิดขึ้น
