BAY กำไร 23,039 ลบ. ลด 29% ปี’63 สำรองเพิ่ม รับมือไม่แน่นอน

HoonSmart.com>>ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดผลกำไรสุทธิ  23,039.79 ล้านบาท ลดลง 29.65% เฉพาะไตรมาส 4 หดตัวเฉียด 45% ทั้งปี 63 ตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตคาดว่าจะเกิดขึ้น 36,644 ล้านบาท อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงสุดที่ 175.1%  สู้โควิดรอบใหม่ เศรษฐกิจเปราะบาง  ส่วนต่างดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมลดลง สินเชื่อโตเล็กน้อย  0.8%  เงินฝากเพิ่มถึงกว่า 2.6 แสนล้านบาทหรือ 17% 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) แจ้งผลงานปี 2563 มีกำไรสุทธิ 23,039.79 ล้านบาท ลดลงจำนวน 9,708.72 ล้านบาท คิดเป็น 29.65% จากที่มีกำไรสุทธิ 32,748.51 ล้านบาทในปี 2562

โดยเฉพาะไตรมาส 4/2563 มีกำไรสุทธิ 3,385 ล้านบาท ลดลง 2,730 ล้านบาทหรือ 44.6% จากไตรมาสที่ 3 เพราะกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง 1,603 ล้านบาทหรือ 9.8% เหลือจำนวน 14,778 ล้านบาท เกิดจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาด รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

สำหรับปี 2563 กำไรที่ลดลงมาก มาจากขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 36,644 ล้านบาท จากสภาพแวดล้อมในการดําเนินธุรกิจที่มีความไม่แน่นอน ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบางจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในเดือนธ.ค. 2563

นอกจากนี้ ในปี 2562 ธนาคารยังมีกําไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นของบริษัท เงินติดล้อ ทำให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 27.7% หรือ 12,502 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ รายได้ส่วนนี้ลดลง 10.6% จำนวน 3,877 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรองรับประมาณการหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากกการชดเชยกรณีพนักงานเกษียณและเลิกจ้าง

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2563 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,832,935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,058 ล้านบาท หรือ 0.8% จากสิ้นปี 2562 จากสินเชื่อเพื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 2.2% และ 2.0% ตามลําดับ ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลง 1.5% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการชําระคืนสินเชื่อของบรรษัทไทย ส่วนเงินฝากเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จำนวน 267,620 ล้านบาทหรือ 17.1% มาอยู่ที่ 1,834,505 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถาม

” อัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 3.47% ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 3.60% เพราะผลตอบแทนของสินทรัพย์ลดตามการปรับลดดอกเบี้ยของสินเชื่อหลายรอบ  อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 2% ใกล้เคียงกับระดับ1.98% ณ สิ้นปี 2562 และเงินสํารองอยู่ในระดับสูงที่จํานวน 79,981 ล้านบาท อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยูในระดับสูงสุดที่ 175.1% เทียบกับ 163.8% ณ สิ้นปี 2562 “ธนาคารกรุงศรีอยุธยาระบุ