HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัสวิเคราะห์ล็อกดาวน์จ.สมุทรสาคร กระทบธุรกิจค้าปลีก CPN, CRC, HMPRO, GLOBAL, BJC, MAKRO, DOHOME, INDEX โรงพยาบาล EKH คาดรายได้หายไปราว 5-10% CPALL – ร้านอาหาร เจ็บเล็กน้อย โรงงานผลิตอาหาร เช่น TU, ASIAN ยังไม่เดือดร้อน ผลิตสินค้าได้ปกติ ส่วนบริษัที่ได้ประโยชน์ JWD, AIMIRT มีคลังห้องเย็นที่มหาชัย คนกลับมาทำงานที่บ้านกัดตุนสินค้าดีต่อ IIG, HUMAN, MAKRO, RBF, STGT
บล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์สถานการณ์จ.สมุทรสาครถูก ล็อกดาวน์ 14 วัน ตั้งแต่ 19 ธ.ค.2563 – 3 ม.ค. 2564 ปิดสถานที่บางแห่งชั่วคราวและห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ในช่วงเวลา 22.00 – 05.00 น. กลุ่มค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า (CPN, CRC, HMPRO, GLOBAL, BJC, MAKRO, DOHOME, INDEX) ถูกสั่งปิดชั่วคราว
ส่วนร้านสะดวกซื้อ (CPALL) คาดไม่เกิน 1% เพราะเปิดได้ แต่ให้ปิดช่วงกลางคืน แต่คาดผลกระทบจำกัด โดยเฉลี่ยสาขาส่วนใหญ่ของค้าปลีกจะกระจุกอยู่ใน กทม. ราว 30-40% คาดจำนวนสาขาในสมุทรสาครไม่เกิน 5% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ล่าสุด CPN แจ้งปิด 1 สาขา เซ็นทรัลมหาชัยปิดแล้ว คาดกระทบรายได้ค่าเช่าและ EBITน้อยกว่า0.5% ในไตรมาสที่ 4 ส่วน HMPRO, GLOBAL, MAKRO มีบริษัทละ 1 สาขา คิดเป็น 0.8-1.5% DOHOME มีสาขาในสมุทรสาคร 2 แห่งจากทั้งหมด 12 แห่ง คิดเป็น 17% แต่คาดสัดส่วนรายได้เพียง 5-7% และผลกระทบยิ่งน้อยกว่านั้นเพราะปิดเพียง 14 วัน ส่วน DCC มี 4 สาขา หรือเพียง 2% ของสาขาทั้งหมด
ส่วนกลุ่มร้านอาหาร (M, ZEN, AU, OISHI) กระทบจำกัด เพราะมีจำนวนสาขาในสมุทรสาครน้อยมากคาดไม่เกิน 5% ของสาขาทั้งหมด เช่น AU มี 2 สาขาจากทั้งหมด 41 สาขา และ M มีเพียง 9 สาขา จากทั้งหมด 687 สาขา (เฉพาะ MK Yayoi แหลมเจริญ) คิดเป็นเพียง 1.3% ในขณะยังให้บริการ Delivery ได้
โรงพยาบาล EKH คาดกระทบราว 5-10% ของรายได้ในไตรมาส 4 อิงจากล็อกดาวน์ครั้งก่อน 2 เดือน ที่รายได้ลดลงราว 45% ส่วน M-CHAI กระทบน้อยกว่าเพราะรับประกันสังคม
สำหรับโรงงานผลิตอาหารในสมุทรสาคร ปัจจุบันยังไม่ถูกกระทบ ยังผลิตและส่งสินค้าได้ปกติ แต่จะเป็นลบก็ต่อเมื่อมีข่าวว่าพนักงานในโรงงานติดเชื้อ และนำไปสู่การปิดโรงงานชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวค่อนข้างมาก รวมถึงอาจมีความเสี่ยงต่อการส่งออก กรณีลูกค้าไม่มั่นใจในความปลอดภัยของสินค้า บริษัทที่มีโรงงานในสมุทรสาครได้แก่ TU, CPF, ASIAN, AU, SORKON,DOD (โรงงานอาหารเสริม) ทั้งนี้ TU ถือว่ามีสัดส่วนรายได้จากโรงงานสมุทรสาครค่อนข้างมาก คาดอยู่ที่ 40-45% ของรายได้รวม ซึ่งมีทั้งขายในประเทศ และส่งออก ส่วน ASIAN สัดส่วนมากเช่นกันคาดราว 90% เพราะโรงงานหลักตั้งอยู่ในสมุทรสาครทั้งหมด
ขณะเดียวกัน มีบริษัทที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ JWD, AIMIRT มีคลังห้องเย็นที่มหาชัย เปิดทำการปกติ ความต้องการเช่าคลังห้องเย็นจะสูงมากเพราะสินค้าเคลื่อนไหวช้า รวมถึง หุ้นกลุ่ม Tech น่าจะได้ sentiment เชิงบวก จากการกลับไปใช้การทำงานที่บ้าน อีกครั้ง เช่น IIG, HUMAN รวมถึงคนที่อาจได้ประโยชน์จากกระแสกักตุนสินค้าจำเป็น เช่น MAKRO, RBF และ STGT