HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 180 จุด วิตกล็อกดาวน์ กลบข่าวดีเริ่มกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชน ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวก ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น เบรนท์ปิด 50.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดรอบ 9 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ที่ 29,861.55 จุด ลดลง 184.82 จุด หรือ 0.62% จากความวิตกต่อการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสวิด-19 รอบใหม่ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป กลบข่าวดีการเริ่มกระจายวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็คหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ลงนามอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบโอเอ็นเทคให้กับชาวอเมริกันอย่างเป็นทางการ
สำนักงานอาหารและยา (FDA)อนุมัติแบบฉุกเฉินให้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,647.49 จุด ลดลง 15.97 จุด, -0.44%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,440.04 จุด เพิ่มขึ้น 62.17 จุด, +0.50%
วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคเริ่มมีการขนส่งและกระจายไปทั่วประเทศท่ามกลางผู้เสียชีวิตจากไวรัสที่มีจำนวนกว่า 300,000 ราย และมีผู้ติดเชื้อกว่า 16 ล้านราย
วัคซีนได้เริ่มส่งไปที่นิวยอร์กเป็นรัฐแรก ขณะที่นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้ออกคำสั่งห้ามการรับประทานอาหารในร้านในนิวยอร์ก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ด้านนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ เตือนว่า อาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ เพราะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องสกัดการแพร่ระบาด มิฉะนั้นจะเป็นความเสี่ยงของโรงพยาบาล
ในรัฐอื่นของสหรัฐฯ รวมทั้งหลายประเทศได้ใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม โดยในอังกฤษรัฐมนตรีสาธารณสุขเปิดเผยว่า จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมากขึ้นในกรุงลอนดอนเพื่อสกัดการกระจายของไวรัสแพร่ระบาด และรัฐบาลเยอรมนีประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดตั้งแต่วันพุธที่ 16 ธันวาคมไปจนถึงวันที่ 10 มกราคมปีหน้า
หุ้นบริษัทที่จะได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจกลับอ่อนตัวลง โดยหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 3.4%. แต่หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 1.3%
การลดลง 3.6% ของหุ้นวอลท์ดิสนีย์ยังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลง หลังจากบริษัทบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ปรับลดน้ำหนักลงทุนเป็น market perform จาก outperform
นักลงทุนยังเกาะติดการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากมีรายงานว่า ทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเห็นด้วยที่จะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 908 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลาง (เฟด) ในวันที่ 15-16 ธันวาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0.00-0.25
หุ้นอเล็กเซียน ฟาร์มาซูติคัลส์ (Alexion Pharmaceuticals) บริษัทเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้น 29.20% หลังจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ผู้ผลิควัคซีนต้านไวรัสในอังกฤษ ประกาศซื้อกิจการ
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 1.5% หลังจาก อังกฤษและสหภาพยุโรปได้ขยายระยะเวลาการเจรจาข้อตกลงการค้าภายใต้ Brexit ออกไป เพราะยังไม่ใข้อสรุปในประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลงการค้าภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
การปรับขึ้นของตลาดถูกจำกัดจากการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสของหลายประเทศ โดยรัฐบาลเยอรมนีประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบตั้งแต่วันพุธที่ 16 ธันวาคมไปจนถึงวันที่ 10 มกราคมปีหน้า ร้านค้าที่ไม่จำเป็นและโรงเรียนจะปิดทั่วประเทศ
ในอังกฤษรัฐมนตรีสาธารณสุขเปิดเผยว่า จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดระดับสูงสุดในกรุงลอนดอนเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 16 ธันวาคม
ผลผลิตอุตสาหกรรมยูโรโซนเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 2.1% จากเดือนกันยายน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 391.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด , +0.44%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,531.83 จุด ลดลง 14.92 จุด, -0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,527.84 จุด เพิ่มขึ้น 20.29 จุด, +0.37%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,223.16 จุด เพิ่มขึ้น 108.86 จุด, +0.83%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 42 เซนต์ปิดที่ 46.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์ต่อ บาร์เรล สูงสุดในรอบ 9 เดือน
อ่านข่าว