HoonSmart.com>>TASCO ดิ่งฟลอร์ที่สอง 17.40 บาท ยังไม่พอ นักวิเคราะห์สั่ง “ขาย” บล.หยวนต้าลดราคาเป้าหมายปีหน้าเหลือเพียง 12.40 บาท ส่วนบล.ทิสโก้กดจาก 32 บาท เป็น 15 บาท บล.เมย์แบงก์ฯตีมูลค่าแค่ 16 บาท คาดกำไรปี64 หายไป 45-50% ทำได้ประมาณ 1,500-1,830 ล้านบาท
หุ้นบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ดิ่งฟลอร์ที่ 2 อยู่ที่ 17.40 บาท ร่วงลง 3 บาทหรือ 14.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54.25 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) วันนี้ไม่ฟลอร์ เปิดต่ำสุดที่ 5.55 บาท ก่อนฟื้นขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 5.70 บาท ลดลง -0.50 หรือ -8.06% มูลค่าการซื้อขาย 103 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายครึ่งวันเช้าของวันที่ 15 ก.ย.2563
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ลดคำแนะนำหุ้น TASCO จาก”ซื้อ”เป็น “ขาย” ปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปีหน้าเหลือ 12.40 บาท/หุ้น อ้างอิง P/E ที่ 13.0 เท่า จาก 16.4 เท่า เนื่องจาก Yield ที่ได้จากซัพพลายรายใหม่ลดลงและมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า กระทบอัตรากำไรขั้นต้นในระยะยาว หลังจากยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลา ทำให้ปริมาณการผลิตหายไปประมาณ 0.8 – 1.1 ล้านตันต่อปี เหลือเพียง 1.0 – 1.2 ล้านตันต่อปี จากปกติที่ 2.0 – 2.2 ล้านตันต่อปี จากขั้นตอนการผลิตของโรงกลั่นในมาเลเซียประมาณ 50% ของผลผลิตทั้งหมด และอีก 1.0 – 1.1 ล้านตันมาจากการซื้อขายจากโรงกลั่นในภูมิภาคแล้วขายให้กับกลุ่มลูกค้า
ตลาดในประเทศ ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงได้รับผลกระทบอย่างจำกัด เนื่องจากบริษัทซื้อผลผลิตยางมะตอยจากโรงกลั่นในประเทศแล้วขายให้กลุ่มลูกค้า โดยปกติยอดขายอยู่ราว 4-5 แสนตันต่อปี (สัดส่วน 30 – 40% ของรายได้ทั้งหมด) ขณะที่ยอดขายในตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 1.5 – 1.8 ล้านตันต่อปี (สัดส่วน 60 – 70% ของรายได้ทั้งหมด)
ส่วนแนวทางเบื้องต้นบริษัทต้องสต๊อกน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลาให้มากที่สุด, หาแหล่งน้ำมันอื่นมาชดเชยหรือรับซื้อน้ำมันดิบจาก Trading Company ซึ่งได้ Yield ต่ำเพียง 50 – 60% เท่านั้น จากปกติราว 70% และมีราคาที่สูงกว่า
บริษัทผลิตยางมะตอยได้จำกัด จึงต้องเลือกกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่าการขายส่ง ปัจจุบันขยายไปแล้วมากถึง 8 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย, ลาว และจีน เป็นต้น ส่งเสริมการขายสินค้า Premium products ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง และกลุ่มธุรกิจก่อสร้างจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดภายในประเทศ นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคงมุมมองบวกต่อราคายางมะตอยที่ยังคงในระดับสูง ซึ่ง Supply ที่ลดลงจากการหยุดสายการผลิตของ TASCO จะถูกชดเชยด้วยบริษัทที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาค เช่น ประเทศจีน เป็นต้น
“ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 2,024 ล้านบาท ลดลง 17.4% จากปีก่อน บริษัทยังคงเช่า floating storage ไปถึงเดือน ก.พ. 2564 และมีสต๊อกน้ำมันดิบที่ผลิตได้จนถึงไตรมาส 1/64 แต่ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ลง 50% เป็น 1,504 ล้านบาท รูดลง 25.7% เนื่องจากปริมาณการขายยางมะตอยลดลงจาก 2.0 – 2.2 ล้านตันเป็น 1.0 – 1.2 ล้านตัน”บล.หยวนต้าระบุ
บล.ทิสโก้ แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น ลดลงจากเดิมที่ 32 บาท P/E 17 เท่าสำหรับปี 2564 คาดผลประกอบการลดลงครึ่งหนึ่งจากการยุติโรงกลั่นในไตรมาส 2/2564 เป็นต้นไป ทำให้กระทบการดำเนินงานในระยะยาว คิดเป็นสัดส่วนของยอดขายกว่า 50% และ 40% ของกำไร โดยที่ยอดขายส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ทำให้ไม่กระทบต่อการดำเนินงานในประเทศ ซึ่งโดยปกติมีอัตรากำไรที่สูง คาดยอดขายในปีหน้าจะลดลง 40% เป็น 1.2 ล้านตัน และเน้นหันมาขายรายย่อยมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตรากำไร
ปัจจุบัน TASCO มีวัตถุดิบ 3 แห่งที่ให้ผลตอบแทน 50 – 60% เทียบกับของเวเนซุเอลาที่ 70% ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่มีความเสี่ยงในระยะยาวจากอุปสงค์ในกลุ่มนี้ที่สูง เพื่อลดความเสี่ยงจะใช้บริษัทเทรดดิ้งมากยิ่งขึ้น หาแหล่ง AC จากโรงกลั่นสำหรับขาย เน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงในประเทศเพิ่มขึ้น การปิดโรงงานของ TASCO จะทำให้อุปทานในภูมิภาคมีจำกัดลง และเชื่อว่าจะทำให้จีนมียอดขายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ลดคำแนะนำเป็น “ขาย” และลดราคาเป้าหมายเหลือ 16 บาท จาก 30 บาท คาดจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงในปี 2564 จากโรงกลั่นซึ่งมีกำลังการผลิต 1 ล้านตันจะหยุดผลิตตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ทำให้ปริมาณขายจะลดลงเหลือ 1.2 ล้านตัน จากระดับปกติ 2-2.2 ล้านตัน จึงปรับประมาณการกำไรลง 45% เหลือ 1,830 ล้านบาท ลดลง 44% ส่วนปี 2563 ปรับประมาณการกำไรลง 3% เหลือ 3,273 ล้านบาท เติบโต 34%
ด้านบริษัท ทิปโก้ แอสฟัลท์ (TASCO) แจ้งความคืบหน้าแผนการบริหารความเสึ่ยงกรณียกเลิกซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อน้ำมันดิบเพื่อทดแทนน้ำมันดิบจากประเทศเวนาสุเอลาทั้งจากผู้ผลิตน้ำมันโดยตรงและบริษัท Trading Company น้ำมัน รวมทั้งบริษัทจะจัดหายางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นๆในภูมิภาคสำหรับบริษัท Trading ในตลาดต่างประเทศ
อ่านข่าว
TASCO เร่งแผนบริหารความเสี่ยงปิดโรงกลั่นหลังยกเลิกซื้อน้ำมันดิบเวเนซูเอลา
