คลุกวงในหุ้น
โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
www.HoonSmart.com “ เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 2 กรกฎาคม 2561
ตลาดหุ้นครึ่งปีแรกปิดฉากลงแล้ว ท่ามกลางความสะบักสะบอมของนักลงทุนในประเทศ ซึ่งถูกนักลงทุนต่างชาติถล่มยับเยิบ ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงติดมือ และไม่รู้ว่า ครึ่งปีหลังจากตามทุนคืนได้หรือไม่
ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์วันสุดท้ายของงวด 6 เดือนแรกปิดลงที่ระดับ1595.58 จุด ลดลงจากจุดสิ้นปี 2560จำนวน 158.13 จุด หรือลดลง 3.96% หลังจากที่เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,838.96 จุด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561
มูลค่าความมั่งคั่งของตลาดหุ้นหายไป 1.43 ล้านล้านบาท คำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวม (มาร์เก็ตเค็ป) ที่เคยมีจำนวน 17.58 ล้านล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2560 แต่ลดลงเหลือ 16.14 ล้านล้านบาท เมื่อจุดปิดครึ่งปี 2561
ประเด็นหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงคือ ต่างชาติเทขายหุ้น ลดนำหนักการลงทุน ขนเงินกลับ ส่วนสาเหตุการถอยทัพ เกิดจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยชองสหรัฐ และซ้ำเติมด้วยความกังวลผลประทบสงครามการค้าจีนกับสหรัฐ
ยอดขายสุทธิสะสมของต่างชาติ จากต้นปีถึงวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นเปิดทำการวันสุดท้ายของครึ่งปีแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 180,076.55 ล้านบาท
การขายอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง ทำให้ยอดการขายสุทธิของต่างชาติในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา กลายเป็นสถิติใหม่ เพราะในช่วงเวลา 6 เดือนต่างชาติไม่เคยถล่มหุ้นหนักระดับเฉียด 2 แสนล้านบาทมาก่อน
หุ้นขนาดใหญ่ทุกกลุ่ม ตกเป็นเป้าหมายในการขาย และเป็นการขายอย่างไม่มีเยื่อใย ไม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐาน
คำถามที่นักลงทุนอยากได้คำตอบคือ 6 เดือนข้างหน้า นับจากวันนี้ ต่างชาติยังจะขายต่อหรือไม่ เพราะถ้ายังระบายหุ้นออกมา ตลาดจะไม่มีโอกาสโงหัวขึ้น และข่าวดีในประเทศอยู่ในช่วงขาดแคลนอย่างหนักเสียด้วย
ดอกเบี้ยสหรัฐกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นเต็มตัว สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ยังคาดหมายไม่ได้ว่า จะลุกลามบานปลายขนาดไหน ต่างชาติจึงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนย้ายทุนออกต่อไป ซึ่งหมายถึงดัชนีฯ มีโอกาสรูดลงได้อีก ถึงไหนไม่รู้ แต่เริ่มมีการประมาณการถึงตัวเลขแย่ๆ กันแล้ว
หุ้นตัวใหญ่ๆ ก็ไม่อาจเรียกความสนใจนักลงทุนได้ เพราะผลประกอบการไตรมาสแรกชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC หรือแม้แต่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กระตุ้นให้ต่างชาติเทขาย โดยหุ้นใหญ่ทั้งสองตัว ราคาลดลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อต้นปี
จะหวังข่าวดีมาช่วยปลุกตลาด ก็มองไม่เห็นสัญญาณข่าวดี ทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ
แม้แต่การทำราคาปิดเมื่อให้บัญชีเงินลงทุนในหุ้นสูงขึ้น หรือวินโดว์เดรสซิ่ง ยังต้องผิดหวัง เพราะไม่น่าจะเกิดรายการวินโดว์เดรสซิ่ง หุ้นวันปิดงวดบัญชีครึ่งปีจึงซึม
ความหวังที่ติดตามลุ้นกันอยู่มีเพียง ต่างชาติจะหยุดขาย และกลับมาช้อนหุ้นคืน ซึ่งถ้าเกิดขึ้น จะเป็นการสิ้นสุดขาลงในรอบนี้ เพื่อจะกลับไปสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่
นักลงทุนบางส่วนกำลังเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของฝรั่ง เพื่อประเมินว่า ใกล้ปิดเทศกาลขายกระหน่ำหรือยัง เพราะถ้าฝรั่งหยุดเมื่อไหร่ จะได้เวลาปรับกลยุทธ์ใหม่
เริ่มทยอยช้อนเก็บหุ้นได้
ตัวเลขการขายของต่างชาติยังวูบวาบอยู่ บางวันกลับมาซื้อ จนคิดว่าหยุดขายแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นกลับมาขายหนักตามเดิมอีก จึงจับทิศทางต่างชาติไม่ได้
อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันปิดงวดครึ่งปี มีตัวเลขสวยของต่างชาติ โดยมียอดซื้อสุทธิ 2,823 ล้านบาท และถือเป็นแรงซื้อที่หนาตา ซึ่งถ้าไม่เป็นรายการวินโดว์เดรสซิ่ง แต่เป็นรายการซื้อขายตามปกติ ความเคลื่อนไหวของต่างชาติครั้งนี้ มีความน่าสนใจมากๆ และนักลงทุนควรเกาะติดไว้
เพราะการปรับฐานใหญ่รอบนี้ จะจบลงเมื่อไหร่ ฝรั่งเป็นตัวส่งสัญญาณบอก จึงต้องเฝ้าฝรั่งทุกฝีก้าว
การกลับมาซื้อสุทธิเมื่อวันศุกร์ อย่างน้อยถือเป็นสัญญาณดีเล็กๆ แล้วกัน