HoonSmart.com>> “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” บิ๊ก “ช ทวี” กางแผนครึ่งปีหลังเดินหน้าสายการผลิตประกอบรถโดยสารไฟ้าขนาดใหญ่ EV-BUS เพื่อเสนองานต่อภาครัฐ-เอกชนในประเทศ พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานต่างประเทศขายรถลำเลียงอาหารจำนวน 155 คัน มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท พร้อมปรับแผนกลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้า ชี้โควิด-19 กระทบรายได้กลุ่มลูกค้าสายการบิน เผยบริษัทยังทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากกลุ่มบริหารงานโครงการและซ่อมบริการ
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี (CHO) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ว่า บริษัทฯ เตรียมความพร้อมสายงานการผลิต ประกอบรถโดยสารไฟฟ้า EV-BUS เพื่อเข้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชนในประเทศ ซึ่งบริษัทได้เตรียมงานด้านรถบรรทุกไฟฟ้ามากว่า 3 ปีแล้ว ปัจจุบันมีผลงานการประกอบทั้งรถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และงานซ่อมบำรุงรถโดยสารไฟฟ้า 100% ในโรงงานที่ จ.ขอนแก่น และเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานต่างประเทศ ขายรถลำเลียงอาหารให้กับสายการบินต่างประเทศ จำนวน 155 คัน มูลค่าประมาณ 1,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีงานในกลุ่มบริหารโครงการ เช่น การบริหารโครงการเดินรถในมหาวิทยาลัยขอนแก่น การให้เช่ารถรับส่งพนักงานกลุ่มเครือ SCG และงานซ่อมบำรุงตามสัญญาระยะยาวที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท สำหรับงานในประเทศคาดว่าจะเป็นงานโครงการให้เช่าโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ที่ใช้วิ่งทางไกล โดยยังเป็นรถโดยสารที่เป็นเชื้อเพลิงดีเซลอยู่ มีมูลค่างานประมาณ 1,800 ล้านบาท และอีกโครงการจะเป็นการให้เช่ารถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV-BUS จำนวน 800 คัน มูลค่าโครงการ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ และพร้อมขายหรือให้บริการรถโดยสารรถโดยสารแก่ภาคภาคเอกชนทั่วไป
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวม 309.96 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิ 104.92 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากในปีก่อนมีรายได้จากการประกอบรถโดยสารให้กับ ขสมก. และโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลต่อลูกค้าสายการบินทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับมีการตั้งสำรองลูกหนี้ลูกค้าสายการบินในประเทศในครึ่งปีแรกนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีงานตามสัญญาระยะยาวทั้งงานซ่อมบำรุง งานบริหารโครงการ และงานให้บริการเช่ารถส่งพนักงาน พร้อมทั้งเตรียมการขยายศูนย์ซ่อมบำรุง “สิบล้อ 24 ชม.” เพิ่มอีก 1 แห่ง ในปีนี้ ที่ จากปัจจุบัน มีจำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่ดี พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ-เอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
