ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ในระลอกที่สอง ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกินกว่า 15 ล้านคน ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งหลังรัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้จีนปิดสถานกงสุลในเมือง Houston รัฐ Texas ขณะที่จีนสั่งให้สหรัฐฯ ปิดสถานกงสุลใน Chengdu เพื่อเป็นการตอบโต้ เป็นปัจจัยกดที่กลับมาดันเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามความคืบหน้าเรื่องวัคซีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจต่อไป
ดัชนี Composite PMI เบื้องต้นในเดือน ก.ค. ฟื้นตัวดีขึ้นในทุกประเทศหลัก และขยายตัวเหนือ 50 จุด ยกเว้นญี่ปุ่น สะท้อนถึงโมเมนตัมของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น หลังผ่อนปรนมาตรการคุมเข้ม นำโดยสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1 จุด เป็น 50.0 จุด สูงสุดในรอบ 6 เดือน ยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.3 จุด เป็น 54.8 จุด สูงสุดในรอบ 25 เดือน ญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1 จุด เป็น 43.9 จุด สูงสุดในรอบ 5 เดือน
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ค. ของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2 จุด เป็น 51.1 จุด สูงสุดในรอบ 4 เดือน และสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะปรับลดลงเป็น 50.8 จุด จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และกิจกรรมภาคส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ หดตัว -32.9% QoQ, saar จากการใช้มาตรการ Lockdown อย่างเข้มงวดในเดือน เม.ย. ก่อนที่จะทยอยผ่อนปรนในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนหดตัว -34.6% QoQ, saar ซึ่งหดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัว -29.9% QoQ, saar คาดว่าแนวโน้มการฟื้นตัวต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากความเสี่ยงการระบาดเชื้อ COVID-19 ระลอกที่ 2 ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้หลายรัฐชะลอการผ่อนปรนมาตรการ Lockdown เพิ่มเติม
วุฒิสภาสหรัฐฯ เสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวงเงิน 1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยมีแผนการแจกเช็คเงินสดรอบสอง จำนวน 1,200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับผู้ใหญ่ และ 500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับเด็ก อีกทั้งมีแผนต่ออายุโครงการ PUC ที่ให้สวัสดิการว่างงานเพิ่มเติม แต่สวัสดิการจะลดลงเป็น 200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อสัปดาห์ ในเดือน ส.ค.-ก.ย. อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่างยังเป็นข้อโต้แย่งระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ ทำให้การอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในสภามีความเสี่ยงที่จะล่าช้าออกไป ทั้งนี้สภามีความจำเป็นที่จะต้องรีบอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในต้นเดือน ส.ค. ก่อนที่สภาจะหยุดทำการอีกครั้ง
ยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. ของญี่ปุ่น ขยายตัว 13.1% MoM สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.0% MoM หลังรัฐบาลยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเมื่อปลายเดือน พ.ค. ประกอบกับแรงหนุนจากนโยบายแจกเงินแก่ประชาชนคนละ 1 แสนเยน ส่งผลให้ยอดค้าปลีกเร่งตัวกลับเข้าใกล้ระดับปกติก่อนเกิดการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19
กลยุทธ์การลงทุน
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ธนอนันต์ (SCBDA)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (SCBEMBOND)
“ขายทำกำไร” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)
“ขายทำกำไร” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)