หุ้น BGRIM บวก 1.32% ขานรับนโยบาย รมว.พลังงาน เตรียมเสนอ กบง.วันที่ 4 ก.ค.นี้ รื้อมติกพช.รับซื้อไฟฟ้า SPP ที่จะหมดอายุสัญญาปี 2560-68 เป็นไม่เกิน 90 MW จากเดิมไม่เกิน 30 MW
เมื่อวันนี้ (25 มิ.ย.) ราคาหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ปิดตลาดที่ 23.10 บาท บวก 0.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.32% โดยราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 23.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.75% ขานรับข่าวดีกรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เตรียมทบทวนมติกพช.เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2559 โดยจะรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ที่สิ้นสุดสัญญาขายไฟฟ้าในช่วงปี 2560-2568 เป็นไม่เกิน 90 MW ในช่วง 3 ปีแรก จากเดิมกำหนดรับซื้อไฟฟ้าไม่เกิน 30-60 MW
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM กล่าวกับ “hoonsmart” ว่า รมว.พลังงานเห็นว่าโรงไฟฟ้า SPP มีความจำเป็น จึงมีนโยบายช่วยเหลือโรงไฟฟ้า SPP มาโดยตลอด โดยเฉพาะการทบทวนมติกพช.เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2559 ดังกล่าว จะส่งผลดีต่อ SPP เนื่องจากมติเดิมกำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ที่สิ้นสุดสัญญาในช่วงปี 2560-2568 ไม่เกิน 30 MW เท่านั้น
“ตอนนี้ขอศึกษาก่อนว่า หากแก้ไขมติกพช.เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2559 แล้ว จะส่งผลดีต่อ BGRIM อย่างไรบ้าง เพราะแม้ว่าในเบื้องต้นกระทรวงพลังงานจะให้กฟผ.รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มเป็นไม่เกิน 90 MW จากเดิมรับซื้อไม่เกิน 30 MW แต่อัตราค่าไฟฟ้าจะลดลงกว่าเดิม”นางปรียนาถกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการหาสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าใหม่ 2 แห่ง กำลังผลิต 240 MW นั้น นางปรียนาถ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหาพื้นที่ที่สร้างโรงไฟฟ้าแล้ว BGRIM ได้ประโยชน์สูงสุด และนอกจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) และนิคมอุตสาหกรรมอาหารฯที่จ.อ่างทองแล้ว ได้มีเจ้าของนิคมฯหลายรายติดต่อมาและขอเสนอให้ใช้สถานที่เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ ยืนยันว่าการก่อสร้างและขายไฟฟ้าเข้าระบบจะเป็นไปตามกำหนด
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม กบง. เพื่อพิจารณาแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP ระบบโคเจนเนอเรชั่น ที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2560-2568 เบื้องต้นกระทรวงพลังงานมีนโยบายให้ทุกรายได้สิทธิ์เหมือนกัน คือ จะรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP เท่ากับสัญญาเดิม แต่ไม่เกิน 90 MW เป็นเวลา 3 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญา จากมติกพช.เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2559 ที่กำหนดรับซื้อไฟฟ้าไม่เกิน 60 MW
นายศิริ ย้ำว่า สัญญารับซื้อไฟฟ้าจาก SPP กว่า 20 ราย กำลังการผลิต 2,000 MW ที่จะหมดอายุในปี 2560-2568 จะแตกต่างจากมติ กพช. เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2559 แน่นอน ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าตั้งแต่ปีที่ 4 จะมีการหารือในที่ประชุมกบง.อีกครั้ง นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ดำเนินการศึกษา SPP-Power Pool เพื่อรองรับกลไกการประมูลรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินในอัตราส่วนลดพิเศษในอนาคต และเสนอให้ กบง. และ กพช. ต่อไป
สำหรับมติกพช.วันที่ 30 พ.ค.2559 กำหนดแนวทางสนับสนุน SPP-Cogeneration ที่จะหมดอายุสัญญาในปี 2560–2568 ได้แก่ กลุ่มแรก SPP-Cogeneration ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญาในปี 2560–2561 (ต่ออายุสัญญา) ให้มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 60 MW และไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า 2.3753 บาทต่อหน่วย
กลุ่มที่สอง SPP-Cogeneration ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญาภายในปี 2562–2568 (ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่) ให้มีระยะเวลาสัญญา 25 ปี ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 30 MW และไม่เกิน 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้าสุทธิรวมไอน้ำ (Net Generation) ไฟฟ้ารวมไอน้ำ และจะต้องไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า ในอัตรา 2.8186 บาทต่อหน่วย