HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 500 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง หลังยอดขายบ้านรอปิดการขายเดือนพ.ค.พุ่งจากเดือนก่อน สูงกว่านักวิเคราะห์คาด ด้านตลาดหุ้นยุโรป ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ที่ 25,595.80 จุด เพิ่มขึ้น 580.25 จุด หรือ 2.32% เป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดภายในวันเดียวในรอบ 3 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นแรงของหุ้นโบอิ้ง แต่นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และแคลิฟอร์เนียที่ยังมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,053.24 จุด เพิ่มขึ้น 44.19 จุด, +1.47%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,874.15 จุด เพิ่มขึ้น 116.93 จุด, +1.20%
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เผย ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 44.3% จากเดือนก่อน เป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ NAR เริ่มบันทึกข้อมูลในเดือนมกราคม 2001 และสูงกว่า 15%ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ยอดขายยังต่ำกว่าระยะเดียวกันของปีก่อน 5.1% นอกจากนี้ อพาร์ตเม้นท์ลิสต์ แพล็ตฟอร์มค่าเช่า รายงานในสัปดาห์ก่อนว่าค่าเช่าในหลายรัฐเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนลดลง 0.1% และลดลง 0.3% นับตั้งแต่เดือนมีนาคม
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เผยผลสำรวจ ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 13.6 จาก -28.0 เดือนพฤษภาคม เป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
นอกจากนี้ผลกำไรของภาคการผลิตของจีนเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 6% จากระยะเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกของปี 2020
แม้นักลงทุนยังกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และหลายรัฐมีการนำมาตรการจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจและการรวมตัวของคนจำนวนมาก แต่คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์ในวงกว้างทั่วประเทศ
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 10 ล้านคนมีผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งล้าน ส่วนในสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 10 รัฐ ทำให้มีการระงับการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
รัฐนิวยอร์กอาจจะชะลอการผ่อนปรนระยะที่ 2 ขณะที่รัฐนิวเจอร์ซีย์จะเลื่อนการอนุญาตให้รับประทานอาหารในร้านออกไปไม่มีกำหนด
หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 14.4% จากข่าว สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ได้เริ่มดำเนินการทดสอบการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max เมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญ หลังจากที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ถูกสั่งห้ามบินตั้งแต่มีนาคม 2019 หลังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งในเวลา 5 เดือน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 346 ราย
หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 2.11% หลังจากยูนิลีเวอร์ และสตาร์บัค ประกาศระงับการโฆษณาบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะหยุดยั้งการแสดงความเห็นที่สร้างความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 2.3%
หุ้นเซ้าท์เวสต์แอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 9.63% หลังโกลด์แมนแซคส์ประบเพิ่มคำแนะนำจาก ขายเป็นซื้อ
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้นกว่า 2% แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่และมีผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่มีปัจจัยบวกหลังจากกิลเลียด ซายนส์ประกาศว่า อัตราราคาสำหรับการรักษาโรคไวรัสไว้ที่ 3,120 ดอลลาร์สำหรับคนสหรัฐฯที่มีประกันและจะขายยาเรมเดซิเวียร์ให้รัฐบาลประเทศพัฒนาทั่วโลกในราคา 390 ดอลลาร์ และ 520 ดอลลาร์ให้กับบริษัทประกันเอกชนในสหรัฐ
ในอังกฤษบริษัทบีพีประกาศจะขายธุรกิจปิโตรเคมีให้กับบริษัท Ineos ในมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์
ดัชนีความเชื่อมั่นยูโรโซน เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นมาที่ 75.7 จาก 67.5 ในเดือนก่อน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,225.77 จุด เพิ่มขึ้น 66.47 จุด, +1.08%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 359.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด, +0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,945.46 จุด เพิ่มขึ้น 35.83 จุด,+0.73%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,232.12 จุด เพิ่มขึ้น 142.73 จุด, +1.18%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 39.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 41.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล