ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 500 จุด รับข่าวพัฒนาวัคซีน คลายล็อกดาวน์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 500 จุด รับข่าวพัฒนาวัคซีน คลายล็อกดาวน์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 26พฤษภาคม 2563 ที่ 24,995.11 จุด พุ่งขึ้น 529.95 จุด หรือ 2.17% จากรายงานข่าวการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และสัญญานการกลับมาของเศรษฐกิจโลกหลังจากล็อกดาวน์

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,991.77 จุด เพิ่มขึ้น 36.32 จุด,+1.23%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,340.22 จุด เพิ่มขึ้น 15.63 จุด, +0.17%

บริษัท Novavax ธุรกิจไบโอเท็คประกาศว่าได้เริ่มทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กับมนุษย์ในออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะได้ผลการทดลองเบื้องต้นกับอาสาสมัครผู้ใหญ่ 135 คนในเดือนกรกฎาคม ขณะเดียวกันบริษัทเมิร์คแอนด์โค ผู้ผลิตยาในสหรัฐฯประกาศว่า จะเปิดตัววัคซีน 2 ตัวในเร็วๆนี้ และกำลังทดลองยารักษาไวรัสร่วมกับพันธมิตร

ขณะนี้มีวัคซีน 10 ตัวที่อยู่ระหว่างการประเมินผลการทดสอบทางคลินิก และ114 ตัว อยู่ระหว่างการประเมินผลก่อนการทดสอบทางคลีนิค

นักลงทุนยังให้ความสนใจกับสัญญานบวกของเศรษฐกิจโลกจากรายงานข่าวว่า หลายประเทศทะยอยผ่อนปรนการล็อกดาวน์ และสัญญานว่าชาวอเมริกันเริ่มรู้สึกปลอดภัยที่จะเดินทางและรวมกลุ่มเป็นจำนวนมากอีกครั้ง

ตลาดอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดของวันในช่วงท้ายการซื้อชายจากรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนและเจ้าหน้าที่อันเนื่องจากสถานการณ์ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังคงตึงเครียด แคร์รี่ ลัม ผู้นำเขตปกครองพิเศษฮ่องกงปฏิเสธว่า จีนกำลังเพิ่มอำนาจในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และทำเนียบขาวยังระบุว่า การเพิ่มอำนาจของจีนในฮ่องกงด้สยการใช้กฎหมายความมั่นคงจะมีผลต่องสถานะศูฯย์กลางการเงินของฮ่องกง

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจกระทรวงพาณิชย์เผย ยอดขายบ้านใหม่เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเกือบ 1% มาที่ 623,000 ยูนิต สูงกว่า 490,000 ยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

Conference Board เผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 86.6จาก 85.7 ในเดือนเมษายน เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เผยผลสำรวจ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางปรับตัวเพิ่มขึ้น จากข้อมูลการเพิ่มขึ้นด้วยเครื่องบินในสหรัฐฯและยุโรปและรายงานข่าวว่าสายการบินเยอรมนีจะกลับมาทำการบินในเดือนกรกฎาคม หลังจากสเปนยกเลิกข้อห้ามการเดินทาง

หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 16.30% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 13.05% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 12.6%

หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 5.2% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.39%

หุ้น Hertz Global Holdings Inc บริษัทให้เช่ารถยนต์ของสหรัฐ ลดลงกว่า 80% หลังยื่นขอล้มละลาย

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการบวก 6.8% หลังจากสเปนตัดสินใจ ยกเลิกการเดินทางข้าวของชาวต่างชาติ ท่ามกลางความคาดหวังว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนปรนล็อกดาวน์

รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตเปิดห้างสรรพสินค้าและโชว์รูมรถในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ และผ่อนคลายธุรกิจที่ไม่จำเป็นในกลางเดือน

ในเยอรมนีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นจากที่ระดับ -18.9 จาก -23.1 และรัฐบาลมีแผนที่จะผ่อนคลายเร็วขึ้นเป็นวันที่ 29 มิถุนายนจากเดิมวันที่ 5 กรกฎาคม และเตรียมจะยกเลิกคำเตือนการเดินทางไป 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,067.76 จุด เพิ่มขึ้น 74.48 จุด,+1.24%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 348.92 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด, +1.08%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,606.24 จุด เพิ่มขึ้น 66.33 จุด,+1.46%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,504.65 จุด เพิ่มขึ้น 113.37 จุด, +1.00%

หุ้น Tui ผู้ให้บริการเดินทางรายใหญ่เยอรมนี ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษเพิ่มขึ้น 35% หลังประกาศแผนที่จะกลับมาทำการบินสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 34.35 ดอลลาร์/บาร์เรลดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 36.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น