HoonSmart.com>> “เมืองไทย แคปปิตอล” เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ เสนอแนวคิดทบทวนเกณฑ์กองทุน BSF เปิดทางซื้อหุ้นกู้เรทติ้งต่ำกว่า Investment grade ป้องกันผิดนัดชำระ พร้อมควักเงินมูลค่ารวมกว่า 110 ล้านบาท สู้โควิด-19 ผ่านการกระจายแจกถุงยังชีพช่วยเหลือคนตกงาน 2 แสนถุง พร้อมบริจาคเงินให้รพ.ในจังหวัดสุโขทัย ผ่านสาธารณสุขจังหวัด เพื่อซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ สร้างอาคารผู้ป่วยนอกให้รพ.อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate Bond Stabilization Fund : BSF) วงเงิน 400,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองชั่วคราว สำหรับเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีมี Rating อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ Investment grade (กลุ่มระดับลงทุน) โดยอยากเห็นการทบทวนแนวคิดการช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนที่ออกหุ้นกู้ในระดับที่ต่ำกว่า Investment grade (ต่ำกว่าระดับลงทุน) มากกว่า
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับหนังสือจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบริจาคให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยที่ผ่านมาบริษัทได้บริจาคเงินผ่านโรงพยาบาลรวม 7 แห่ง มูลค่า 60 ล้านบาท และ MTC ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยพร้อมช่วยเหลือและบริจาคเพิ่มเติม เพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นความยากลำบากในครั้งนี้ไปด้วยกัน
บริษัทฯ พร้อมที่จะทำใน 4 เรื่องหลักๆ คือ
1.บริษัทฯ จะทำถุงยังชีพ ช่วยเหลือคนตกงานที่มีปัญหาในการดำรงชีพ ซึ่งในถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ เช่น น้ำปลา ปลากระป๋อง น้ำมันพืช เป็นต้น จำนวน 200,000ถุง มูลค่าถุงละ300บาท รวมเป็นเงิน 60 ล้านบาท
2. บริษัทฯ พร้อมมอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดสุโขทัย ผ่านสาธารณสุขจังหวัด เพื่อนำไปใช้ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสู้กับโควิด-19รวมไปถึงใช้สำหรับสร้างอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย รวมเป็นเงินบริจาค 50 ล้านบาท
3.บริษัทพร้อมเปิดพื้นที่หน้าอาคารสำนักงานทุกแห่ง ซึ่งมีมากกว่า 4,000 สาขา เพื่อให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อน นำสินค้าเกษตร หรือผลิตภัณฑ์OTOPมาวางจำหน่ายที่หน้าสำนักงานสาขาได้ทั่วประเทศ
4.บริษัทฯพร้อมให้รัฐบาลรวมถึงองค์กรต่างๆของรัฐหรือเอกชนใช้เครือข่ายสาขาของเมืองไทย แคปปิตอล ที่มีมากกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ เป็นศูนย์ในการกระจายความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19