HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบกว่า 400 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจทรุด โควิด-19 ฉุดกำไรบริษัทจดทะเบียนร่วง ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดรอบ 18 ปี ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 15เมษายน 2563 ที่ 23,504.35 จุด ร่วงลง 445.41 จุด หรือ 1.86% จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจหลังจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกลดลงอย่างมาก และข้อมูลเศรษฐกิจที่ทรุดตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.36 จุด ลดลง 62.70 จุด, -2.20%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,393.18 จุด ลดลง 122.56 จุด, -1.44%
ธนาคารใหญ่หลายแห่งรายงานผลกำไรที่ลดลงมาก เป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้เพราะธุรกิจต้องหยุดดำเนินการจากการระบาดของไวรัส
กระทรวงพาณิชย์เผยยอดค้าปลีกเดือนมีนาคมดิ่งลง 8.7% เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลปี 1992 และลดลงมากกว่า 8.0% ที่นักวิเคราะห์คาด จากที่ลดลง 0.4% เดือนกุมภาพันธ์
ธนาคารกลาง(เฟด) เผย การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือนมนาคมลดลง 5.4% เป็นการลดลงมาที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 1946 จากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก(Empire State Index) ลดลงมาที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -78.2
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนเมษายนลดลง 42 จุด มาที่ระดับ 30 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012
ผลกำไรที่ลดลงมากของธนาคารใหญ่บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดตัวจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสทำให้นักลงทุนเกิดความวิตก ประกอบกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(International Monetary Fund)เตือนว่า เศรษฐกิจโลกเสียหายมากที่สุดนับตั้งแต่ยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หรือ the Great Depression
นอกจากนี้นางคริสตาลิน่า กอร์เกียวา ผู้อำนวยการ IMF เผยว่า ประเทศกว่าครึ่งโลกได้ยื่นของความเช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF
ด้านนายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า การระบาดของไวรัสมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา และสิ่งที่น่ากังวลคือโลกกำลังถอยหลังจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก
นักเวิเคราะห์คาดว่า ตลาดจะยังคงปั่นป่วนไปอีก 2 เดือน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ทยอยออกมา
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลงมาที่ระดับต่ำกว่า 19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ(IEA) คาดการณ์ความต้องการน้ำมันลดลง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เฉพาะเดือนเมษายนนี้ลดลง 29 ล้านบาร์เรลต่อวันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำสุดตั้งแต่ปี 1995
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 24 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 19.87ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 6.6% ปิดที่ 27.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงมากกว่า 4% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 4.6% หุ้นเชฟรอน ลดลง 2.5%
ในกลุ่มสายการบิน หุ้นเดลต้า แอร์ไลน ลดลง 0.77% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 3.1% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 2.9% ส่วนหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ลดลง 5.6% แม้มีรายงานว่า สายการบินรายใหญ่และกระทรวงการคลังบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจการบินที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยสายการบินชำระเงินกู้เพียง 30% และออกวอร์แรนท์แลกกับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ท่ามกลางความวิตกของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่สดใส โดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซลดลง 6% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงมาก
ในเยอรมนีกำลังเตรียมการที่จะอนุญาตให้ร้านค้าขนาดเล็กเปิดให้บริการอย่างเร็วสุดในสัปดาห์หน้าแต่ต้องมีมาตรการด้านสุขอนามัย และยังคงใช้มาตรการระยะห่างทางสังคม โดยห้ามการรวมตัวเกินกว่า 2 คนขึ้นไป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,597.65 จุด ลดลง 193.66 จุด, -3.34%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 323.06 จุด ลดลง 10.85 จุด, -3.25 %
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,353.72 จุด ลดลง 170.18 จุด, -3.76%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,279.76 จุด ลดลง 416.80 จุด, -3.90%
หุ้นอาดิดาส ลดลง 3% หลังยอมรับความช่วยเหลือจากการเงิน 3 พันล้านยูโรจากรัฐบาล เพราะยอดขายและเงินสดรับจากส่วนอื่นของโลกได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของไวรัส
อ่านข่าว

